นายสุเมธ มโหสถ อธิบดีกรมการจัดหางาน กล่าวถึงการจัดส่งแรงงานไทยไปทำงานลักษณะเก็บผลไม้ป่าที่ประเทศสวีเดน และฟินแลนด์ ในปีนี้ ว่า ขณะนี้ทั้งสองประเทศมีแรงงานไทยสมัครครบจำนวนโควตาวีซ่าที่ทั้งสองประเทศอนุมัติให้แก่ไทยแล้ว และมีการอนุมัติวีซ่าไปเรียบร้อยแล้วทั้งหมด 5,924 คน อย่าหลงเชื่อผู้แอบอ้างพาไปเก็บผลไม้ในป่าสวีเดนและฟินแลนด์
อย่างไรก็ตาม ประเทศสวีเดนมีบริษัทนายจ้างของไทย 9 แห่งทำสัญญากับผู้รับซื้อผลไม้ป่าในสวีเดน จำนวน 3,325 คน ซึ่งลดลงจากปี 2556 จำนวน 2,871 คน โดยการเก็บผลไม้ป่าในสวีเดนจะมีสัญญาจ้างงานกำหนดให้นายจ้างจ่ายค่าจ้างให้ลูกจ้างไม่น้อยกว่าเดือนละ 91,000 บาท แต่หากเก็บผลไม้ได้มากกว่าค่าจ้างขั้นต่ำจะได้เงินเพิ่มตามจำนวนผลไม้ที่เก็บได้
ส่วนประเทศฟินแลนด์ได้อนุมัติวีซ่าให้แรงงานไทย 2,599 คน ซึ่งลดลงจากปีที่แล้ว 616 คน ทั้งนี้แรงงานไทยที่เดินทางไปเก็บผลไม้ป่าที่ประเทศสวีเดนและประเทศฟินแลนด์ จะต้องเสียค่าใช้จ่ายคนละประมาณ 75,000 บาท เช่น ค่าหนังสือเดินทาง ค่าวีซ่า ค่าแปลเอกสาร เป็นต้น และต้องจ่ายค่าที่พัก ค่าอาหาร ค่าเดินทางเองและลูกจ้างทุกคนจะต้องทำประกันอุบัติเหตุ และประกันสุขภาพ ตลอดระยะเวลาการทำงาน และต้องแจ้งขออนุญาตเดินทางด้วยตนเองต่อกรมการจัดหางาน รวมทั้งต้องสมัครเป็นสมาชิกกองทุนเพื่อช่วยเหลือคนหางานไปทำงานในต่างประเทศ ซึ่งกรมการจัดหางานได้จัดอบรมให้ข้อมูลแก่แรงงานไทยก่อนเดินทางทั้งเรื่องสัญญาจ้าง กฎหมาย ขนบธรรมเนียมประเพณี และการปฏิบัติตัวขณะทำงานเก็บผลไม้ป่า
นอกจากนี้ จะจัดส่งชื่อ-สกุล เบอร์โทรศัพท์ และที่อยู่ขณะที่ผู้เก็บผลไม้ป่าทำงานให้สถานเอกอัครราชทูตไทยประจำทั้งสองประเทศ และให้สถานเอกอัครราชทูตสวีเดน และฟินแลนด์ ประจำในไทยด้วย เพื่อประสานในการติดตามเยี่ยมเยือน ตรวจสอบ และให้ความช่วยเหลือได้ทันทีหากเกิดปัญหาระหว่างการเก็บผลไม้ป่า อีกทั้งกรมการจัดหางาน จะพิจารณาถึงการจัดส่งเจ้าหน้าที่ไปประจำในทั้่งสองประเทศ เพื่อประสานให้การทำงานของคนไทยเป็นไปด้วยความสะดวก
อย่างไรก็ตาม ประเทศสวีเดนมีบริษัทนายจ้างของไทย 9 แห่งทำสัญญากับผู้รับซื้อผลไม้ป่าในสวีเดน จำนวน 3,325 คน ซึ่งลดลงจากปี 2556 จำนวน 2,871 คน โดยการเก็บผลไม้ป่าในสวีเดนจะมีสัญญาจ้างงานกำหนดให้นายจ้างจ่ายค่าจ้างให้ลูกจ้างไม่น้อยกว่าเดือนละ 91,000 บาท แต่หากเก็บผลไม้ได้มากกว่าค่าจ้างขั้นต่ำจะได้เงินเพิ่มตามจำนวนผลไม้ที่เก็บได้
ส่วนประเทศฟินแลนด์ได้อนุมัติวีซ่าให้แรงงานไทย 2,599 คน ซึ่งลดลงจากปีที่แล้ว 616 คน ทั้งนี้แรงงานไทยที่เดินทางไปเก็บผลไม้ป่าที่ประเทศสวีเดนและประเทศฟินแลนด์ จะต้องเสียค่าใช้จ่ายคนละประมาณ 75,000 บาท เช่น ค่าหนังสือเดินทาง ค่าวีซ่า ค่าแปลเอกสาร เป็นต้น และต้องจ่ายค่าที่พัก ค่าอาหาร ค่าเดินทางเองและลูกจ้างทุกคนจะต้องทำประกันอุบัติเหตุ และประกันสุขภาพ ตลอดระยะเวลาการทำงาน และต้องแจ้งขออนุญาตเดินทางด้วยตนเองต่อกรมการจัดหางาน รวมทั้งต้องสมัครเป็นสมาชิกกองทุนเพื่อช่วยเหลือคนหางานไปทำงานในต่างประเทศ ซึ่งกรมการจัดหางานได้จัดอบรมให้ข้อมูลแก่แรงงานไทยก่อนเดินทางทั้งเรื่องสัญญาจ้าง กฎหมาย ขนบธรรมเนียมประเพณี และการปฏิบัติตัวขณะทำงานเก็บผลไม้ป่า
นอกจากนี้ จะจัดส่งชื่อ-สกุล เบอร์โทรศัพท์ และที่อยู่ขณะที่ผู้เก็บผลไม้ป่าทำงานให้สถานเอกอัครราชทูตไทยประจำทั้งสองประเทศ และให้สถานเอกอัครราชทูตสวีเดน และฟินแลนด์ ประจำในไทยด้วย เพื่อประสานในการติดตามเยี่ยมเยือน ตรวจสอบ และให้ความช่วยเหลือได้ทันทีหากเกิดปัญหาระหว่างการเก็บผลไม้ป่า อีกทั้งกรมการจัดหางาน จะพิจารณาถึงการจัดส่งเจ้าหน้าที่ไปประจำในทั้่งสองประเทศ เพื่อประสานให้การทำงานของคนไทยเป็นไปด้วยความสะดวก