น.ส.สุภิญญา กลางณรงค์ กรรมการกิจการกระจายเสียงและ กิจการโทรทัศน์ (กสท.) เปิดเผยว่า การประชุมบอร์ดกสท. วันที่ 16 มิถุนายน จะพิจารณาผังรายการใหม่ของช่องบลูสกาย และเอเอสทีวี ที่ไม่มีเนื้อหาเกี่ยวกับการเมือง และเป็นผังรายการที่มุ่งเน้นการนำเสนอข่าว เพื่อการปฏิรูปประเทศ
ทั้งนี้ หากบอร์ด กสท.อนุมัติ จะส่งเรื่องให้คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) พิจารณาอนุญาต เช่นเดียวกับช่องวอยซ์ทีวี และ ทีนิวส์ รวมถึงสถานีวิทยุชุนกว่า 4,000 แห่ง ที่ คสช. ได้มีประกาศอนุญาตให้กลับมาออกอากาศได้ตามปกติแล้ว เมื่อคืนวันที่ 14 มิถุนายนที่ผ่านมา
สำหรับบลูสกายและเอเอสทีวี เป็น 1 ใน 14 สถานีโทรทัศน์ที่ถูกสั่งระงับจาก คสช. ตั้งแต่วันที่ 22 พฤษภาคม ซึ่งได้ยื่นขอปรับผังรายการต่อจากวอยซ์ทีวี และทีนิวส์ ซึ่งหาก คสช. อนุญาตให้ออกอากาศ ทั้ง 2 ช่องต้องมีเนื้อหาไม่ขัดต่อประกาศ คสช.คือ ยุยง ยั่วยุ ปลุกปั่นทางการเมือง โดยจะถูกเพิกถอนใบอนุญาตทันทีหากฝ่าฝืน
นอกจากนี้ บอร์ดจะตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีที่มีบริษัทเอกชน และกลุ่มบุคคลเผยแพร่โปสเตอร์ ใบปลิว ที่มีข้อความหลอกลวงประชาชนให้สั่งจองกล่องรับสัญญาณทีวีดิจิตอลในหลายจังหวัด เนื่องจากมีประชาชนร้องเรียนมาค่อนข้างมาก ทั้งที่บอร์ด กสท. ยังไม่ได้สรุปรูปแบบ และวิธีการแจกคูปอง เพื่อแลกรับกล่อง ซึ่ง กสท. จะกำหนดมาตรการลงโทษอย่างจริงจัง
นายเถกิง สมทรัพย์ ผู้อำนวยการสถานีโทรทัศน์ บลูสกาย กล่าวว่า ได้เสนอผังรายการใหม่ให้ กสท.พิจารณา โดยปรับคอนเซ็ปต์สถานีใหม่ทั้งหมด สู่สถานีข่าวสารเพื่อการปฏิรูปประเทศไทย งดรายการที่เกี่ยวกับการเมือง เปลี่ยนตัวพิธีกร เปลี่ยนฉาก ไตเติล สถานี ซึ่งหลังจาก คสช.อนุญาตให้ออกอากาศได้ จะได้รับชมบลูสกายโฉมใหม่ทันที
นายปรเมนทร์ ภักดิ์วาปี ผู้อำนวยการสถานีโทรทัศน์ เอเอสทีวี กล่าวว่า ผังรายการใหม่ของเอเอสทีวีจะไม่นำเสนอเนื้อหาข่าวสารที่ขัดต่อประกาศ คสช. โดยเน้นไปทางเศรษฐกิจเพื่อให้ออกอากาศได้ทันทีหลังได้รับอนุญาต รวมทั้งยังได้ยื่นขอช่องรายการเป็นบอกรับสมาชิก เนื่องจากมีพนักงานจำนวนกว่า 400 คน ที่ได้รับผลกระทบ เนื่องจากเสียรายได้จากการขายโฆษณา และสินค้าไปมากนับตั้งแต่ถูกระงับออกอากาศ
ทั้งนี้ หากบอร์ด กสท.อนุมัติ จะส่งเรื่องให้คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) พิจารณาอนุญาต เช่นเดียวกับช่องวอยซ์ทีวี และ ทีนิวส์ รวมถึงสถานีวิทยุชุนกว่า 4,000 แห่ง ที่ คสช. ได้มีประกาศอนุญาตให้กลับมาออกอากาศได้ตามปกติแล้ว เมื่อคืนวันที่ 14 มิถุนายนที่ผ่านมา
สำหรับบลูสกายและเอเอสทีวี เป็น 1 ใน 14 สถานีโทรทัศน์ที่ถูกสั่งระงับจาก คสช. ตั้งแต่วันที่ 22 พฤษภาคม ซึ่งได้ยื่นขอปรับผังรายการต่อจากวอยซ์ทีวี และทีนิวส์ ซึ่งหาก คสช. อนุญาตให้ออกอากาศ ทั้ง 2 ช่องต้องมีเนื้อหาไม่ขัดต่อประกาศ คสช.คือ ยุยง ยั่วยุ ปลุกปั่นทางการเมือง โดยจะถูกเพิกถอนใบอนุญาตทันทีหากฝ่าฝืน
นอกจากนี้ บอร์ดจะตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีที่มีบริษัทเอกชน และกลุ่มบุคคลเผยแพร่โปสเตอร์ ใบปลิว ที่มีข้อความหลอกลวงประชาชนให้สั่งจองกล่องรับสัญญาณทีวีดิจิตอลในหลายจังหวัด เนื่องจากมีประชาชนร้องเรียนมาค่อนข้างมาก ทั้งที่บอร์ด กสท. ยังไม่ได้สรุปรูปแบบ และวิธีการแจกคูปอง เพื่อแลกรับกล่อง ซึ่ง กสท. จะกำหนดมาตรการลงโทษอย่างจริงจัง
นายเถกิง สมทรัพย์ ผู้อำนวยการสถานีโทรทัศน์ บลูสกาย กล่าวว่า ได้เสนอผังรายการใหม่ให้ กสท.พิจารณา โดยปรับคอนเซ็ปต์สถานีใหม่ทั้งหมด สู่สถานีข่าวสารเพื่อการปฏิรูปประเทศไทย งดรายการที่เกี่ยวกับการเมือง เปลี่ยนตัวพิธีกร เปลี่ยนฉาก ไตเติล สถานี ซึ่งหลังจาก คสช.อนุญาตให้ออกอากาศได้ จะได้รับชมบลูสกายโฉมใหม่ทันที
นายปรเมนทร์ ภักดิ์วาปี ผู้อำนวยการสถานีโทรทัศน์ เอเอสทีวี กล่าวว่า ผังรายการใหม่ของเอเอสทีวีจะไม่นำเสนอเนื้อหาข่าวสารที่ขัดต่อประกาศ คสช. โดยเน้นไปทางเศรษฐกิจเพื่อให้ออกอากาศได้ทันทีหลังได้รับอนุญาต รวมทั้งยังได้ยื่นขอช่องรายการเป็นบอกรับสมาชิก เนื่องจากมีพนักงานจำนวนกว่า 400 คน ที่ได้รับผลกระทบ เนื่องจากเสียรายได้จากการขายโฆษณา และสินค้าไปมากนับตั้งแต่ถูกระงับออกอากาศ