นายเอนก สีหามาตย์ อธิบดีกรมศิลปากร เปิดเผยว่า ได้รับรายงานจากนายสหภูมิ ภูมิธฤติรัฐ ผู้อำนวยการสำนักพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ในฐานะประธานคณะกรรมการกำหนดเงินรางวัลสำหรับผู้เก็บได้ซึ่งโบราณวัตถุ ศิลปวัตถุที่เป็นทรัพย์สินของแผ่นดิน รวมทั้งตรวจพิสูจน์ กำหนดอายุสมัย กำหนดค่าทรัพย์สินและประเมินราคาของโบราณวัตถุ ศิลปวัตถุ สิ่งเทียมโบราณวัตถุและสิ่งเทียมศิลปวัตถุ ที่ได้นำทองคำโบราณที่ขุดพบในพื้นที่ตำบลเขาชัยสน จังหวัดพัทลุง ซึ่งนายวิ ทับแสง เจ้าของที่ดิน และชาวบ้านที่ขุดพบนำมาส่งมอบคืน โดยที่ประชุมได้นำทองคำจำนวน 22 รายการ ประกอบด้วย ทองรูปพรรณ 4 รายการ ได้แก่ กำไลนาค ชิ้นส่วนกำไล จี้รูป ปลัดขิก ลูกปัดทองคำ รวมถึงแผ่นทองคำที่มีจารึก 13 รายการ มูลค่ารวมกว่า 1 ล้านบาท ให้ผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบ ทั้งนี้ จากการอ่านจารึกบนแผ่นทองคำโบราณ ภาษาจีนที่ปรากฏบนแผ่นทองคำ คาดว่าเป็นชื่อแหล่งผลิตทอง แถบมณฑลเจ้อเจียง ซ้องใต้ ของจีน อยู่ในราว ค.ศ. 1670 –1822 อายุระหว่าง 700-800 ปี คำจารึกเป็น ชื่อคน อ่านออกเสียงว่า แซ่ หาน คาดว่าน่าจะเป็นผู้ทำหน้าที่การันตีทองคำ
ทั้งนี้ ลักษณะของทองคำมีรูปแบบคล้ายกับแผ่นทองในพิพิธภัณฑ์เวินโจวของจีน สำหรับทองคำก้อนอีก 5 รายการ จำนวน 89.25 บาท ยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบ จึงไม่ได้มีการประเมินคุณค่าในครั้งนี้
อย่างไรก็ตาม จะนำทองคำที่ได้ประเมินค่าดังกล่าวไปตรวจสอบทางด้านวิทยาศาสตร์อีกครั้ง ดังนั้นในครั้งนี้จึงไม่สามารถสรุปจำนวนเงินรางวัลและมูลค่าของทองคำแต่ละชิ้นที่จะจ่ายให้กับชาวบ้านได้ คาดว่าในสัปดาห์หน้าจะสรุปผล จากนั้นจะจัดทำแผนขออนุมัติงบประมาณ เพื่อเบิกจ่ายค่าตอบแทนให้กับชาวบ้านเร็วๆ นี้
ทั้งนี้ ลักษณะของทองคำมีรูปแบบคล้ายกับแผ่นทองในพิพิธภัณฑ์เวินโจวของจีน สำหรับทองคำก้อนอีก 5 รายการ จำนวน 89.25 บาท ยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบ จึงไม่ได้มีการประเมินคุณค่าในครั้งนี้
อย่างไรก็ตาม จะนำทองคำที่ได้ประเมินค่าดังกล่าวไปตรวจสอบทางด้านวิทยาศาสตร์อีกครั้ง ดังนั้นในครั้งนี้จึงไม่สามารถสรุปจำนวนเงินรางวัลและมูลค่าของทองคำแต่ละชิ้นที่จะจ่ายให้กับชาวบ้านได้ คาดว่าในสัปดาห์หน้าจะสรุปผล จากนั้นจะจัดทำแผนขออนุมัติงบประมาณ เพื่อเบิกจ่ายค่าตอบแทนให้กับชาวบ้านเร็วๆ นี้
