พัทลุง - อธิบดีกรมศิลปากร ลงพื้นที่ จ.พัทลุง ตรวจพื้นที่ขุดทอง เผยเป็นทองอายุประมาณ 700-800 ปี โดยมีอายุรุ่นเดียวกับปราสาทนครวัด แนะให้ชาวบ้านนำทองมามอบให้แก่ทางราชการ โดยจะมีเงินตอบแทนให้
เมื่อเวลาประมาณ 17.00 น. วันนี้ (28 พ.ค.) นายเอนก สีหามาตย์ อธิบดีกรมศิลปากร และเจ้าหน้าที่จากสำนักศิลปากรที่ 14 นครศรีธรรมราช ได้เดินทางมายังที่ว่าการอำเภอเขาชัยสน เพื่อขอทราบรายละเอียดการขุดทองในพื้นที่ ม.7 ต.เขาชัยสน จากนายสมศักดิ์ เวชพาณิชย์ นายอำเภอเขาชัยสน
จากนั้นได้เดินทางไปยังบ้านพัก นายวิ ทับแสง ที่บ้านเลขที่ 1 ม.6 ต.เขาชัยสน อ.เขาชัยสน เจ้าของสวนปาล์มที่ขุดพบทองคำ เพื่อพูดคุยกับนายระวิ พร้อมทั้งขอดูทองรูปพรรณจากนายวิ ที่เก็บรักษาไว้ในบ้านพัก โดยมีกำลังตำรวจทั้งนอก และในเครื่องแบบคอยดูแลความปลอดภัยประมาณ 10 นาย
นายเอนก สีหามาตย์ อธิบดีกรมศิลปากร กล่าวว่า ทองรูปพรรณที่ขุดได้ถือเป็นทรัพย์ของแผ่นดิน หากผู้ที่ขุดพบนำมามอบให้แก่ทางราชการ ทางราชการก็จะใช้เงินให้แก่เจ้าของในราคา 1/3 ของทรัพย์สินทั้งหมด ซึ่งน่าจะมีราคามากกว่าราคาในท้องตลาดถึง 10 เท่า ส่วน นายวิ และชาวบ้านจะคืนให้หรือไม่เป็นสิทธิของผู้ขุดพบ และจากการตรวจสภาพทองรูปพรรณของนายวิ ก็ต้องยอมรับว่าเป็นทองแท้ๆ โดยเป็นเรื่องราวที่แสดงถึงกวนเกษียรสมุทร ซึ่งเป็นการเอานาคมาพันโยงกับทองดังกล่าวแล้วใส่น้ำลงไป จากนั้นเอาน้ำมาดื่มกินเพื่อมิให้เสียชีวิตตามความเชื่อของศาสนาฮินดู โดยมีอายุรุ่นเดียวกับปราสาทนครวัด ประมาณ 700-800 ปี
นายเอนก ยังกล่าวอีกว่า ตนจะส่งเจ้าหน้าที่เข้ามาขุดค้นโบราณสถานโบราณวัตถุในพื้นที่ดังกล่าว เพื่อหาร่องรอยประวัติความเป็นมาของสิ่งมีค่าดังกล่าว หากปล่อยให้ชาวบ้านขุดกันแบบนี้ทรัพย์สินของแผ่นดินจะต้องเสียหายอย่างยับเยิน และเสนอแนะให้นายอำเภอเขาชัยสน ขอกำลังทหารมาดูแลในพื้นที่ดังกล่าวด้วย
ในขณะที่ชาวบ้านนับพันคนยังคงเดินทางมาขุดทองคำอย่างต่อเนื่อง ตลอดทั้งกลางวัน กลางคืน บางรายได้ทองคำอย่างใจหวัง บางรายก็ไม่ได้ ก็ชื่นชมกับเพื่อนที่ขุดเจอ
ด้าน นางสุรีย์ แซ่โล้ว อายุ 56 ปี เจ้าของร้านทองในเขตเทศบาลเมืองพัทลุง บอกว่า ได้มีชาวบ้านนำทองที่ขุดได้มาขายที่ร้านตน 2-3 ราย แต่ตนไม่กล้ารับซื้อ เนื่องจากไม่มั่นใจว่าเป็นทองคำที่มีการขโมยมาหรือเปล่า เพราะตอนแรกตนเองยังไม่ทราบข่าวว่ามีการขุดพบทองคำ แต่ดูจากเนื้อทองแล้วสวยมาก และมีอายุยาวนาน แต่เมื่อทราบข่าวตนก็ไม่กล้ารับซื้อ