จีนกล่าวหาเรือเวียดนามพุ่งชนเรือของตนกว่า 1,400 ครั้ง ใกล้แท่นขุดเจาะน้ำมันในทะเลจีนใต้ พร้อมยืนยันอย่างละเอียดว่าแท่นขุดเจาะดังกล่าวอยู่ในน่านน้ำของตน ขณะที่ในอีกด้านหนึ่ง ปักกิ่งยังยืนยันร่วมซ้อมรบใหญ่กับอเมริกาในแปซิฟิกครั้งแรกกลางเดือนนี้ แม้ความสัมพันธ์ทางการทหารในปัจจุบันไม่สู้ดีนักก็ตาม
กระทรวงการต่างประเทศจีนออกคำแถลงเมื่อวันจันทร์ (9 มิ.ย.) ระบุว่า การกระทำของเรือเวียดนามดังกล่าวนั้นผิดกฎหมาย และเรียกร้องให้ฮานอยยุติ “การยั่วยุ”
ปักกิ่งนั้นได้เคลื่อนย้ายแท่นขุดเจาะน้ำมันของตนเข้าไปอยู่ใกล้ๆ กับหมู่เกาะพาราเซล ในเขตทะเลจีนใต้ ตั้งแต่เมื่อวันที่ 2 พฤษภาคมที่ผ่านมา กระตุ้นให้เกิดการจลาจลต่อต้านจีนในเวียดนาม ซึ่งก็ประกาศอ้างกรรมสิทธิน่านน้ำในบริเวณนี้เช่นกัน จนกระทั่งมีโรงงานถูกเผาถูกปล้นไปเป็นร้อยแห่ง และมีผู้เสียชีวิตไป 4 คน
ทางฝ่ายฮานอยกล่าวหาตอบโต้ว่า แท่นขุดเจาะดังกล่าวรุกล้ำเข้ามาอยู่ภายในเขตเศรษฐกิจจำเพาะ (EEZ) ของเวียดนาม ซึ่งปกติแล้วกฎหมายทะเลระหว่างประเทศกำหนดว่าครอบคลุมพื้นที่ 200 ไมล์ทะเลจากชายฝั่งของประเทศนั้นๆ หรือของเกาะของชาตินั้นๆ เวียดนามจึงเรียกร้องให้จีนยุติการสำรวจแหล่งพลังงานและถอนแท่นขุดเจาะออกไป
ขณะเดียวกัน เรือของเวียดนามจำนวนหลายสิบลำ ซึ่งพยายามจะเข้าไปขับไล่แท่นขุดเจาะ ก็เผชิญหน้ากับเรือจำนวนมากของฝ่ายจีนซึ่งมาคอยคุ้มกัน ถึงแม้ทั้งสองฝ่ายดูจะยังไม่มีการนำเอาเรือของฝ่ายทหารเข้าปฏิบัติการ
อย่างไรก็ตาม สำหรับกรณีของแท่นขุดเจาะน้ำมันในคราวนี้ กระทรวงการต่างประเทศจีนได้ออกมายืนยันว่าอยู่ในภายในเขตอำนาจอธิปไตยของจีน พร้อมให้รายละเอียดมากที่สุดเท่าที่เคยทำมา อีกทั้งอ้างอิงหลักกฎหมายทะเลระหว่างประเทศด้วย
“ที่ตั้งในการดำเนินงาน 2 แห่ง (ของแท่นขุดเจาะน้ำมันนี้) อยู่ห่างจากเกาะจงเจียนของหมู่เกาะซีซา (พาราเซล) ของจีน 17 ไมล์ทะเล แต่อยู่ห่างจากชายฝั่งเวียดนามถึง 133-156 ไมล์ทะเล”
คำแถลงของกระทรวงการต่างประเทศจีนยังระบุว่า มีการละเมิดอธิปไตย สิทธิอธิปไตย และเขตอำนาจศาลของจีนอย่างร้ายแรง
“เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 7 ที่ผ่านมา มีเรือเวียดนามถึง 63 ลำในบริเวณดังกล่าว เรือเหล่านั้นพยายามฝ่าแนวป้องกันของจีน และพุ่งเข้าชนเรือของรัฐบาลจีนรวมทั้งสิ้น 1,416 ครั้ง”
กระทรวงการต่างประเทศจีนออกคำแถลงเมื่อวันจันทร์ (9 มิ.ย.) ระบุว่า การกระทำของเรือเวียดนามดังกล่าวนั้นผิดกฎหมาย และเรียกร้องให้ฮานอยยุติ “การยั่วยุ”
ปักกิ่งนั้นได้เคลื่อนย้ายแท่นขุดเจาะน้ำมันของตนเข้าไปอยู่ใกล้ๆ กับหมู่เกาะพาราเซล ในเขตทะเลจีนใต้ ตั้งแต่เมื่อวันที่ 2 พฤษภาคมที่ผ่านมา กระตุ้นให้เกิดการจลาจลต่อต้านจีนในเวียดนาม ซึ่งก็ประกาศอ้างกรรมสิทธิน่านน้ำในบริเวณนี้เช่นกัน จนกระทั่งมีโรงงานถูกเผาถูกปล้นไปเป็นร้อยแห่ง และมีผู้เสียชีวิตไป 4 คน
ทางฝ่ายฮานอยกล่าวหาตอบโต้ว่า แท่นขุดเจาะดังกล่าวรุกล้ำเข้ามาอยู่ภายในเขตเศรษฐกิจจำเพาะ (EEZ) ของเวียดนาม ซึ่งปกติแล้วกฎหมายทะเลระหว่างประเทศกำหนดว่าครอบคลุมพื้นที่ 200 ไมล์ทะเลจากชายฝั่งของประเทศนั้นๆ หรือของเกาะของชาตินั้นๆ เวียดนามจึงเรียกร้องให้จีนยุติการสำรวจแหล่งพลังงานและถอนแท่นขุดเจาะออกไป
ขณะเดียวกัน เรือของเวียดนามจำนวนหลายสิบลำ ซึ่งพยายามจะเข้าไปขับไล่แท่นขุดเจาะ ก็เผชิญหน้ากับเรือจำนวนมากของฝ่ายจีนซึ่งมาคอยคุ้มกัน ถึงแม้ทั้งสองฝ่ายดูจะยังไม่มีการนำเอาเรือของฝ่ายทหารเข้าปฏิบัติการ
อย่างไรก็ตาม สำหรับกรณีของแท่นขุดเจาะน้ำมันในคราวนี้ กระทรวงการต่างประเทศจีนได้ออกมายืนยันว่าอยู่ในภายในเขตอำนาจอธิปไตยของจีน พร้อมให้รายละเอียดมากที่สุดเท่าที่เคยทำมา อีกทั้งอ้างอิงหลักกฎหมายทะเลระหว่างประเทศด้วย
“ที่ตั้งในการดำเนินงาน 2 แห่ง (ของแท่นขุดเจาะน้ำมันนี้) อยู่ห่างจากเกาะจงเจียนของหมู่เกาะซีซา (พาราเซล) ของจีน 17 ไมล์ทะเล แต่อยู่ห่างจากชายฝั่งเวียดนามถึง 133-156 ไมล์ทะเล”
คำแถลงของกระทรวงการต่างประเทศจีนยังระบุว่า มีการละเมิดอธิปไตย สิทธิอธิปไตย และเขตอำนาจศาลของจีนอย่างร้ายแรง
“เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 7 ที่ผ่านมา มีเรือเวียดนามถึง 63 ลำในบริเวณดังกล่าว เรือเหล่านั้นพยายามฝ่าแนวป้องกันของจีน และพุ่งเข้าชนเรือของรัฐบาลจีนรวมทั้งสิ้น 1,416 ครั้ง”