สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงมะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์ วันนี้ (10 พ.ค.) ว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติฟิลิปปินส์ออกแถลงการณ์แจ้งการนำตัวลูกเรือประมงชาวจีน 11 คน ไปฝากขังที่เรือนจำจังหวัดปาลาวัน ทางตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศ ตั้งแต่คืนวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่น หลังเรือตรวจการณ์ของตำรวจน้ำสามารถสะกดรอยและสกัดจับเรือประมงจีนและลูกเรือทั้งหมดได้เมื่อวันอังคาร บริเวณนอกชายฝั่งหมู่เกาะสแปรตลีย์ พร้อมของกลาง คือ เต่าทะเล 350 ตัว การกระทำดังกล่าวถือว่าเข้าข่ายละเมิดกฎหมายพิทักษ์สัตว์ป่าของฟิลิปปินส์ ซึ่งผู้กระทำผิดต้องระวางโทษจำคุกขั้นต่ำ 12 ปี สูงสุด 20 ปี นอกจากนี้ ยังถือเป็นการละเมิดเขตเศรษฐกิจจำเพาะของฟิลิปปินส์ด้วย
อย่างไรก็ตาม ศาลให้โอกาสผู้ต้องหาทุกคนประกันตัวภายใต้วงเงิน 150,000 เปโซ (ราว 112,200 บาท) เพื่อให้ได้รับอิสรภาพชั่วคราวก่อนรอเข้ารับการไต่สวนตามกำหนด แม้รัฐบาลจีนจะยังไม่ออกมาแสดงท่าทีเคลื่อนไหว แต่ว่าสร้างความไม่พอใจอย่างรุนแรงให้กับปักกิ่งอย่างไม่ต้องสงสัย ซึ่งก่อนหน้านี้ออกมาเรียกร้องและกดดันฟิลิปปินส์ให้ปล่อยตัวชาวประมงทั้ง 11 คน โดยเร็ว
ทั้งนี้ ความขัดแย้งดังกล่าวเกิดขึ้นในเวลาไล่เลี่ยกับกรณีพิพาทระหว่างจีนกับเวียดนาม เรื่องการที่จีนเข้ามาขุดเจาะน้ำมันบริเวณหมู่เกาะพาราเซลในทะเลจีนใต้ ซึ่งเป็นบริเวณที่รัฐบาลฮานอยอ้างสิทธิ์ความเป็นเจ้าของ
อย่างไรก็ตาม ศาลให้โอกาสผู้ต้องหาทุกคนประกันตัวภายใต้วงเงิน 150,000 เปโซ (ราว 112,200 บาท) เพื่อให้ได้รับอิสรภาพชั่วคราวก่อนรอเข้ารับการไต่สวนตามกำหนด แม้รัฐบาลจีนจะยังไม่ออกมาแสดงท่าทีเคลื่อนไหว แต่ว่าสร้างความไม่พอใจอย่างรุนแรงให้กับปักกิ่งอย่างไม่ต้องสงสัย ซึ่งก่อนหน้านี้ออกมาเรียกร้องและกดดันฟิลิปปินส์ให้ปล่อยตัวชาวประมงทั้ง 11 คน โดยเร็ว
ทั้งนี้ ความขัดแย้งดังกล่าวเกิดขึ้นในเวลาไล่เลี่ยกับกรณีพิพาทระหว่างจีนกับเวียดนาม เรื่องการที่จีนเข้ามาขุดเจาะน้ำมันบริเวณหมู่เกาะพาราเซลในทะเลจีนใต้ ซึ่งเป็นบริเวณที่รัฐบาลฮานอยอ้างสิทธิ์ความเป็นเจ้าของ