สำนักข่าวอิศรา รายงานพิเศษรายละเอียดของหนังสือลับพล.อ.ประวิตร วงศ์สุวรรณ ก่อนนั่ง ประธานคณะที่ปรึกษา คสช. แจง "ป.ป.ช." ที่มาเงินในบัญชีทรัพย์สินเพิ่มนับสิบล้าน ช่วงรับ-พ้นตำแหน่ง รมว.กลาโหม ยุครัฐบาลอภิสิทธิ์
พล.อ.ประวิตร วงศ์สุวรรณ ประธานที่ปรึกษาคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้ทำหนังสือชี้แจง คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) กรณีมีทรัพย์สินเพิ่มขึ้นจากการเข้ารับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในยุครัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี กว่าสิบล้านบาทว่าเป็นผลมาจากการเงินดอกเบี้ย ในบัญชีเงินฝากธนาคาร และมูลค่าหุ้นต่อหน่วยงานลงทุนไว้เพิ่มขึ้น
สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ตรวจสอบพบว่า ในช่วงปลายเดือนพฤศจิกายน 2556 ที่ผ่านมา พล.อ.ประวิตร สงศ์สุวรรณ ได้ทำหนังสือชี้แจงข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน ช่วงพ้นตำแหน่งรมว.กลาโหม ในสมัยรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ต่อ ป.ป.ช.
โดยหนังสือดังกล่าวระบุว่า ตามที่สำนักงาน ป.ป.ช. ได้ตรวจสอบบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินของพล.อ.ประวิตร ในช่วงเข้ารับตำแหน่ง รมว.กลาโหม เมื่อวันที่ 22 ธันวาคม 2551, กรณีพ้นตำแหน่ง เมื่อวันที่ 10 สิงหาคม 2554 และกรณีพ้นตำแหน่งครบ 1 ปี เมื่อวันที่ 9 สิงหาคม 2555 โดยเปรียบเทียบรายการทรัพย์สินและหนี้สิน พบว่า จากช่วงเข้ารับตำแหน่งกับช่วงพ้นตำแหน่ง มีทรัพย์สินเพิ่มขึ้น 12,708,429.65 บาท และช่วงพ้นตำแหน่ง จนถึงช่วงพ้นตำแหน่งครบ 1 ปี มีทรัพย์สินเพิ่มขึ้น 17,207,378.89 บาท
ข้าพเจ้า พล.อ. ประวิตร วงษ์ สุวรรณ ขอชี้แจงเกี่ยวกับจำนวนเงินที่เพิ่มขึ้น โดยมีรายละเอียดดังนี้
1.เงินฝากธนาคารกสิกรไทย สาขาเทเวศร์ ยื่นขณะรับตำแหน่งเมื่อ 22 ธันวาคม 2551 จำนวน 1,447,292.54 บาท ยื่นขณะพ้นตำแหน่งเมื่อ 10 สิงหาคม 2554 จำนวน 7,470,904.27 บาท เงินที่เพิ่มมาเนื่องจากครบกำหนดปิดบัญชีเงินกองทุนเปิดเค พันธบัตรเกาหลี 1 ปี โดยโอนเข้าบัญชีจำนวน 5,184,050 บาท
ยื่นขณะพ้นตำแหน่งครบ 1 ปี เมื่อ 9 สิงหาคม 2555 จำนวน 2,702,531.74 บาท จำนวนเงินลดลง 4,768,372.53 บาท เนื่องจากมีการโอนเงินไปธนาคารทหารไทย สาขาสำนักพหลโยธิน จำนวน 3 ครั้ง รวม 5,500,000 บาท ผลต่างจำนวน 1,255,239.20 บาท
2. เงินฝากธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาพหลโยธิน ยื่นขณะรับตำแหน่งเมื่อวันที่ 22 ธันวาคม 2551 จำนวน 5,098,831.74 บาท ยื่นขณะพ้นตำแหน่งเมื่อ 10 สิงหาคม 2554 จำนวน 10,259,302.71 บาท เงินเพิ่มมาเนื่องจากโอนเงินจากธนาคารกสิกรไทย สาขาเทเวศร์ จำนวน 2 ครั้ง รวม 2,000,000 บาท และโอนมาจากธนาคารทหารไทย สาขาสำนักพหลโยธิน จำนวน 2 ครั้ง รวม 3,000,000 บาท ยื่นขณะพ้นจากตำแหน่งครบ 1 ปี เมื่อ 9 สิงหาคม 2555 จำนวน 10,430,846.73 บาท เพิ่มขึ้น 171,544.02 บาท เป็นเงินดอกเบี้ยและภาษีของบัญชีฝากประจำ ผลต่างจำนวน 5,332,014.99 บาท
3. เงินลงทุน บริษัท ไทยยูเนี่ยน โฟรเซ่น โปรดักศ์ จำกัด (มหาชน) ยื่นขณะรับตำแหน่ง เมื่อ 22 ธันวาคม 2551 จำนวน 150,000 หุ้น จำนวน 2,910,000 บาท ยื่นขณะพ้นตำแหน่งเมื่อ 10 สิงหาคม 2554 จำนวนหุ้น 160,000 หุ้น จำนวน 9,080,000 บาท ซื้อเพิ่มขึ้น 10,000 หุ้น โดยหักเงินจากบัญชีธนาคารทหารไทย สาขาสำนักพหลโยธิน จำนวน 569,018.06 บาท ส่วนต่างเพิ่มขึ้น 6,170,000 บาท เนื่องจากมูลค่าหุ้นต่อหน่วยเพิ่มขึ้น
ยื่นขณะพ้นตำแหน่งครบ 1 ปี เมื่อ 9 สิงหาคม 2555 ซื้อหุ้นเพิ่มทุน 32,000 หุ้น โดยหักเงินจากบัญชีธนาคารทหารไทย สาขาสำนักพหลโยธิน จำนวน 1,600,000 บาท รวมเป็นจำนวนหุ้น 192,000 หุ้น จำนวน 13,776,000 บาท จำนวนเงินเพิ่มขึ้น 4,696,000 บาท เนื่องจากมูลค่าหุ้นต่อหน่วยเพิ่มขึ้น
4. เงินลงทุนบริษัทบีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) ยื่นขณะพ้นจากตำแหน่งครบ 1 ปี เมื่อ 9 สิงหาคม 2555 จากการซื้อหุ้นเพิ่ม 3,500,000 หุ้น โดยหักเงินจากบัญชีธนาคารทหารไทย สาขาสำนักพหลโยธิน จำนวน 2,702,434.05 บาท ราคาหุ้นเพิ่มขึ้นเป็น 2,968,000 บาท
5.เงินลงทุน บริษัทเจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) ยื่นขณะพ้นจากตำแหน่งครบ 1 ปี เมื่อ 9 สิงหาคม 2555 จากการซื้อหุ้นเพิ่ม 100,000 หุ้น โดยหักเงินจากบัญชีธนาคารทหารไทย สาขาสำนักพหลโยธิน จำนวน 3,258,965 บาท ราคาหุ้นเพิ่มขึ้นเป็น 3,275,000 บาท
ก่อนหน้านี้ สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ตรวจสอบบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ (แจ้งว่าโสด) ที่ยื่นแสดงต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) 3 ครั้งพบว่า
ตอนรับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม วันที่ 22 ธ.ค.2551 มีทรัพย์สิน 56,856,005.94 บาท ไม่มีหนี้สิน
ตอนพ้นตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม วันที่ 10 ส.ค.2554 มีทรัพย์สิน 69,669,416.60 บาท ไม่มีหนี้สิน
ตอนพ้นตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ครบ 1 ปี วันที่ 9 ส.ค.2555 มีทรัพย์สิน 79,063,414.84 บาท ไม่มีหนี้สิน
เปรียบเทียบตอนรับตำแหน่ง-พ้นตำแหน่ง เพิ่มขึ้น 12,813,410.66 บาท
เปรียบเทียบตอนรับตำแหน่ง -ตอนพ้นตำแหน่งครบ 1 ปี เพิ่มขึ้น 22,207,408.90 บาท
เปรียบเทียบตอนพ้นตำแหน่ง - ตอนพ้นตำแหน่งครบ 1 ปี เพิ่มขึ้น 9,393,998.24 บาท
ทั้งนี้ โดย ทรัพย์สินที่ถือครองมากที่สุด 3 ลำดับ คือ เงินฝาก เงินลงทุน และที่ดิน
โดยมีเงินฝากเกือบ 30 ล้านบาท และเงินลงทุนผ่าน บริษัท ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด กว่า 23 ล้านบาท
พล.อ.ประวิตร วงศ์สุวรรณ ประธานที่ปรึกษาคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้ทำหนังสือชี้แจง คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) กรณีมีทรัพย์สินเพิ่มขึ้นจากการเข้ารับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในยุครัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี กว่าสิบล้านบาทว่าเป็นผลมาจากการเงินดอกเบี้ย ในบัญชีเงินฝากธนาคาร และมูลค่าหุ้นต่อหน่วยงานลงทุนไว้เพิ่มขึ้น
สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ตรวจสอบพบว่า ในช่วงปลายเดือนพฤศจิกายน 2556 ที่ผ่านมา พล.อ.ประวิตร สงศ์สุวรรณ ได้ทำหนังสือชี้แจงข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน ช่วงพ้นตำแหน่งรมว.กลาโหม ในสมัยรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ต่อ ป.ป.ช.
โดยหนังสือดังกล่าวระบุว่า ตามที่สำนักงาน ป.ป.ช. ได้ตรวจสอบบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินของพล.อ.ประวิตร ในช่วงเข้ารับตำแหน่ง รมว.กลาโหม เมื่อวันที่ 22 ธันวาคม 2551, กรณีพ้นตำแหน่ง เมื่อวันที่ 10 สิงหาคม 2554 และกรณีพ้นตำแหน่งครบ 1 ปี เมื่อวันที่ 9 สิงหาคม 2555 โดยเปรียบเทียบรายการทรัพย์สินและหนี้สิน พบว่า จากช่วงเข้ารับตำแหน่งกับช่วงพ้นตำแหน่ง มีทรัพย์สินเพิ่มขึ้น 12,708,429.65 บาท และช่วงพ้นตำแหน่ง จนถึงช่วงพ้นตำแหน่งครบ 1 ปี มีทรัพย์สินเพิ่มขึ้น 17,207,378.89 บาท
ข้าพเจ้า พล.อ. ประวิตร วงษ์ สุวรรณ ขอชี้แจงเกี่ยวกับจำนวนเงินที่เพิ่มขึ้น โดยมีรายละเอียดดังนี้
1.เงินฝากธนาคารกสิกรไทย สาขาเทเวศร์ ยื่นขณะรับตำแหน่งเมื่อ 22 ธันวาคม 2551 จำนวน 1,447,292.54 บาท ยื่นขณะพ้นตำแหน่งเมื่อ 10 สิงหาคม 2554 จำนวน 7,470,904.27 บาท เงินที่เพิ่มมาเนื่องจากครบกำหนดปิดบัญชีเงินกองทุนเปิดเค พันธบัตรเกาหลี 1 ปี โดยโอนเข้าบัญชีจำนวน 5,184,050 บาท
ยื่นขณะพ้นตำแหน่งครบ 1 ปี เมื่อ 9 สิงหาคม 2555 จำนวน 2,702,531.74 บาท จำนวนเงินลดลง 4,768,372.53 บาท เนื่องจากมีการโอนเงินไปธนาคารทหารไทย สาขาสำนักพหลโยธิน จำนวน 3 ครั้ง รวม 5,500,000 บาท ผลต่างจำนวน 1,255,239.20 บาท
2. เงินฝากธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาพหลโยธิน ยื่นขณะรับตำแหน่งเมื่อวันที่ 22 ธันวาคม 2551 จำนวน 5,098,831.74 บาท ยื่นขณะพ้นตำแหน่งเมื่อ 10 สิงหาคม 2554 จำนวน 10,259,302.71 บาท เงินเพิ่มมาเนื่องจากโอนเงินจากธนาคารกสิกรไทย สาขาเทเวศร์ จำนวน 2 ครั้ง รวม 2,000,000 บาท และโอนมาจากธนาคารทหารไทย สาขาสำนักพหลโยธิน จำนวน 2 ครั้ง รวม 3,000,000 บาท ยื่นขณะพ้นจากตำแหน่งครบ 1 ปี เมื่อ 9 สิงหาคม 2555 จำนวน 10,430,846.73 บาท เพิ่มขึ้น 171,544.02 บาท เป็นเงินดอกเบี้ยและภาษีของบัญชีฝากประจำ ผลต่างจำนวน 5,332,014.99 บาท
3. เงินลงทุน บริษัท ไทยยูเนี่ยน โฟรเซ่น โปรดักศ์ จำกัด (มหาชน) ยื่นขณะรับตำแหน่ง เมื่อ 22 ธันวาคม 2551 จำนวน 150,000 หุ้น จำนวน 2,910,000 บาท ยื่นขณะพ้นตำแหน่งเมื่อ 10 สิงหาคม 2554 จำนวนหุ้น 160,000 หุ้น จำนวน 9,080,000 บาท ซื้อเพิ่มขึ้น 10,000 หุ้น โดยหักเงินจากบัญชีธนาคารทหารไทย สาขาสำนักพหลโยธิน จำนวน 569,018.06 บาท ส่วนต่างเพิ่มขึ้น 6,170,000 บาท เนื่องจากมูลค่าหุ้นต่อหน่วยเพิ่มขึ้น
ยื่นขณะพ้นตำแหน่งครบ 1 ปี เมื่อ 9 สิงหาคม 2555 ซื้อหุ้นเพิ่มทุน 32,000 หุ้น โดยหักเงินจากบัญชีธนาคารทหารไทย สาขาสำนักพหลโยธิน จำนวน 1,600,000 บาท รวมเป็นจำนวนหุ้น 192,000 หุ้น จำนวน 13,776,000 บาท จำนวนเงินเพิ่มขึ้น 4,696,000 บาท เนื่องจากมูลค่าหุ้นต่อหน่วยเพิ่มขึ้น
4. เงินลงทุนบริษัทบีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) ยื่นขณะพ้นจากตำแหน่งครบ 1 ปี เมื่อ 9 สิงหาคม 2555 จากการซื้อหุ้นเพิ่ม 3,500,000 หุ้น โดยหักเงินจากบัญชีธนาคารทหารไทย สาขาสำนักพหลโยธิน จำนวน 2,702,434.05 บาท ราคาหุ้นเพิ่มขึ้นเป็น 2,968,000 บาท
5.เงินลงทุน บริษัทเจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) ยื่นขณะพ้นจากตำแหน่งครบ 1 ปี เมื่อ 9 สิงหาคม 2555 จากการซื้อหุ้นเพิ่ม 100,000 หุ้น โดยหักเงินจากบัญชีธนาคารทหารไทย สาขาสำนักพหลโยธิน จำนวน 3,258,965 บาท ราคาหุ้นเพิ่มขึ้นเป็น 3,275,000 บาท
ก่อนหน้านี้ สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ตรวจสอบบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ (แจ้งว่าโสด) ที่ยื่นแสดงต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) 3 ครั้งพบว่า
ตอนรับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม วันที่ 22 ธ.ค.2551 มีทรัพย์สิน 56,856,005.94 บาท ไม่มีหนี้สิน
ตอนพ้นตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม วันที่ 10 ส.ค.2554 มีทรัพย์สิน 69,669,416.60 บาท ไม่มีหนี้สิน
ตอนพ้นตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ครบ 1 ปี วันที่ 9 ส.ค.2555 มีทรัพย์สิน 79,063,414.84 บาท ไม่มีหนี้สิน
เปรียบเทียบตอนรับตำแหน่ง-พ้นตำแหน่ง เพิ่มขึ้น 12,813,410.66 บาท
เปรียบเทียบตอนรับตำแหน่ง -ตอนพ้นตำแหน่งครบ 1 ปี เพิ่มขึ้น 22,207,408.90 บาท
เปรียบเทียบตอนพ้นตำแหน่ง - ตอนพ้นตำแหน่งครบ 1 ปี เพิ่มขึ้น 9,393,998.24 บาท
ทั้งนี้ โดย ทรัพย์สินที่ถือครองมากที่สุด 3 ลำดับ คือ เงินฝาก เงินลงทุน และที่ดิน
โดยมีเงินฝากเกือบ 30 ล้านบาท และเงินลงทุนผ่าน บริษัท ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด กว่า 23 ล้านบาท