นายสุเทพ เหลี่ยมศิริเจริญ ปลัดกระทรวงพลังงาน ระบุว่า บ่ายวันนี้ทางกระทรวงพลังงาน เตรียมเสนอหัวหน้าฝ่ายเศรษฐกิจ และทีมที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจของ คสช. เรื่องปรับโครงสร้างราคาแก๊สหุงต้ม หรือ แอลพีจีภาคครัวเรือน และภาคขนส่ง ที่ปัจจุบันภาคครัวเรือนแพงกว่า 1.25 บาทต่อกิโลกรัม จนอาจจะทำให้เกิดการลักลอบจากภาคขนส่งไปใช้ในภาคครัวเรือน โดยข้อเสนอของกระทรวงฯ จะยึดหลักการสะท้อนกลไกการตลาด และหลักความเป็นธรรมต่อผู้บริโภคทุกฝ่าย และในวันที่ 1 มิถุนายนนี้ แก๊สหุงต้มจะต้องมีการปรับขึ้นอีกกิโลกรัมละ 50 สตางค์ จึงมีบางฝ่ายต้องการให้ตรึงราคาไปก่อน
นอกจากนี้ จะหารือในเรื่องของกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ที่ล่าสุดติดลบกว่า 7,000 ล้านบาท และเป็นห่วงว่าหากเงินบาทแข็งค่าขึ้น อาจยิ่งทำให้เป็นภาระของกองทุนในการดูแล ขณะที่การใช้น้ำมันดีเซลก็เพิ่มขึ้นมาก เพราะมีการตรึงราคาเอาไว้ไม่เกิน 30 บาทต่อลิตร
ด้าน นายชิษณุพงศ์ รุ่งโรจน์งามเจริญ นายกสมาคมผู้ค้าแอลพีจี ระบุว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาทำหนังสือไปยัง คสช.ให้ตรึงราคาแอลพีจีภาคครัวเรือนชั่วคราว เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน
นอกจากนี้ จะหารือในเรื่องของกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ที่ล่าสุดติดลบกว่า 7,000 ล้านบาท และเป็นห่วงว่าหากเงินบาทแข็งค่าขึ้น อาจยิ่งทำให้เป็นภาระของกองทุนในการดูแล ขณะที่การใช้น้ำมันดีเซลก็เพิ่มขึ้นมาก เพราะมีการตรึงราคาเอาไว้ไม่เกิน 30 บาทต่อลิตร
ด้าน นายชิษณุพงศ์ รุ่งโรจน์งามเจริญ นายกสมาคมผู้ค้าแอลพีจี ระบุว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาทำหนังสือไปยัง คสช.ให้ตรึงราคาแอลพีจีภาคครัวเรือนชั่วคราว เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน