นายสรรเสริญ พลเจียก เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) กล่าวถึงการขยายผลการตรวจสอบทุจริตโครงการรับจำนำข้าว ในช่วงความรับผิดชอบของนายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล อดีตรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ และนายยรรยง พวงราช อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ ว่า จากการตรวจสอบคดีทางอาญา น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ที่พบความเสียหายจากโครงการรับจำนำข้าวที่เพิ่มมากขึ้น
เบื้องต้นจะไต่สวนพยานเพิ่ม 4 ปาก ได้แก่ นายสมชาติ สร้อยทอง อธิบดีกรมการค้าภายใน นายรังสรรค์ ศรีวรศาสตร์ ปลัดกระทรวงการคลัง นายกุลิศ สมบัติศิริ ผู้ตรวจราชการกระทรวงการคลัง และผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร หรือผู้แทน ซึ่งทั้งหมดเกี่ยวข้องกับการปิดบัญชีและความเสียหายของโครงการ คาดว่าจะเริ่มไต่สวนพยานได้ในสัปดาห์หน้า
ส่วนการตรวจสอบทรัพย์สินผู้เกี่ยวข้องกับการรับจำนำข้าวด้วยนั้น ป.ป.ช.มีอำนาจในการตรวจสอบบัญชีทรัพย์สินในช่วงเข้ารับตำแหน่ง และออกจากตำแหน่งอยู่แล้ว แต่หากมีคดีการทุจริต จะสอบความเชื่อมโยงในทางลึก ซึ่งยังไม่ได้กำหนดว่าจะตรวจสอบใครบ้าง เบื้องต้นนอกจากคดีทุจริตรับจำนำข้าวแล้ว จะตรวจสอบความเชื่อมโยงในทุกคดีด้วย ทั้งนี้ หากพบว่ามีข้อมูลว่านายนิวัฒน์ธำรง และนายยรรยงเกี่ยวข้อง อาจตั้งคณะกรรมการขึ้นมาไต่สวนข้อเท็จจริง
เบื้องต้นจะไต่สวนพยานเพิ่ม 4 ปาก ได้แก่ นายสมชาติ สร้อยทอง อธิบดีกรมการค้าภายใน นายรังสรรค์ ศรีวรศาสตร์ ปลัดกระทรวงการคลัง นายกุลิศ สมบัติศิริ ผู้ตรวจราชการกระทรวงการคลัง และผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร หรือผู้แทน ซึ่งทั้งหมดเกี่ยวข้องกับการปิดบัญชีและความเสียหายของโครงการ คาดว่าจะเริ่มไต่สวนพยานได้ในสัปดาห์หน้า
ส่วนการตรวจสอบทรัพย์สินผู้เกี่ยวข้องกับการรับจำนำข้าวด้วยนั้น ป.ป.ช.มีอำนาจในการตรวจสอบบัญชีทรัพย์สินในช่วงเข้ารับตำแหน่ง และออกจากตำแหน่งอยู่แล้ว แต่หากมีคดีการทุจริต จะสอบความเชื่อมโยงในทางลึก ซึ่งยังไม่ได้กำหนดว่าจะตรวจสอบใครบ้าง เบื้องต้นนอกจากคดีทุจริตรับจำนำข้าวแล้ว จะตรวจสอบความเชื่อมโยงในทุกคดีด้วย ทั้งนี้ หากพบว่ามีข้อมูลว่านายนิวัฒน์ธำรง และนายยรรยงเกี่ยวข้อง อาจตั้งคณะกรรมการขึ้นมาไต่สวนข้อเท็จจริง