นายสมิทธ์ พนมยงค์ กรรมการผู้อำนวยการบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนไทยพาณิชย์ (บลจ.ไทยพาณิชย์) ยอมรับว่า ปัญหาการเมืองยืดเยื้อและไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลใหม่ภายในปีนี้ได้ทำให้ทิศทางของตลาดหุ้นไทยยังคงผันผวนและมีแนวโน้มที่จะปรับลดลง เนื่องจากปัจจุบันหุ้นค่อนข้างเต็มมูลค่า มีระดับราคาต่อกำไรสุทธิ (พีอีเรโช) ที่ 12 เท่า และกรอบการเคลื่อนไหวของดัชนีในปีนี้อยู่ระหว่าง 1,300 -1,400 จุด
ทั้งนี้ ยอมรับว่า การบริหารกองทุนภายใต้ปัจจัยกดดันทางการเมืองต้องมีแผนรองรับ ทั้งตลาดหุ้นไทยในช่วงขาขึ้นและขาลง โดยจะเน้นทั้งการออกผลิตภัณฑ์และการบริหารกองทุนอย่างเหมาะสม
อย่างไรก็ตาม ยังมองว่า ขณะนี้ไม่ใช่วิกฤตเศรษฐกิจเพียงแต่เศรษฐกิจเติบโตช้าและอาจซึมยาว จึงถือเป็นโอกาสจะเลือกลงทุนในหุ้นปัจจัยพื้นฐานดีที่มีราคาต่ำได้ และควรขยายการลงทุนไปยังหุ้นต่างประเทศ เช่น ยุโรป ญี่ปุ่น สหรัฐฯ ที่มีสัญญาณเศรษฐกิจฟื้นตัว ซึ่ง บลจ.ไทยพาณิชย์จะหันมารุกกลุ่มลูกค้ารายย่อยมากขึ้น โดยจะออกผลิตภัณฑ์กองทุนที่ให้ผลตอบแทนสูงกว่าอัตราดอกเบี้ยเงินฝาก
ทั้งนี้ ยอมรับว่า การบริหารกองทุนภายใต้ปัจจัยกดดันทางการเมืองต้องมีแผนรองรับ ทั้งตลาดหุ้นไทยในช่วงขาขึ้นและขาลง โดยจะเน้นทั้งการออกผลิตภัณฑ์และการบริหารกองทุนอย่างเหมาะสม
อย่างไรก็ตาม ยังมองว่า ขณะนี้ไม่ใช่วิกฤตเศรษฐกิจเพียงแต่เศรษฐกิจเติบโตช้าและอาจซึมยาว จึงถือเป็นโอกาสจะเลือกลงทุนในหุ้นปัจจัยพื้นฐานดีที่มีราคาต่ำได้ และควรขยายการลงทุนไปยังหุ้นต่างประเทศ เช่น ยุโรป ญี่ปุ่น สหรัฐฯ ที่มีสัญญาณเศรษฐกิจฟื้นตัว ซึ่ง บลจ.ไทยพาณิชย์จะหันมารุกกลุ่มลูกค้ารายย่อยมากขึ้น โดยจะออกผลิตภัณฑ์กองทุนที่ให้ผลตอบแทนสูงกว่าอัตราดอกเบี้ยเงินฝาก