นายสุเทพ น้อยไพโรจน์ รองอธิบดีกรมชลประทาน กล่าวว่า สถานการณ์น้ำในเขื่อนต่างๆ ขณะนี้อยู่ในเกณฑ์ดี เมื่อเทียบกับปีก่อน แม้ปริมาณฝนปีนี้จะน้อย จากฝนที่ตกลงมาตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม ถึง 20 เมษายน 2557 ตกเพียง 91 มิลลิเมตร จากที่ควรตก 135 มิลลิเมตร ถือว่าน้อยกว่าค่าเฉลี่ยในรอบ 30 ปี ถึงร้อยละ 32 แต่ด้วยการวางแผนบริหารจัดการน้ำที่ดี ทำให้ปริมาณน้ำในเขื่อนทั่วประเทศมีเพียงพอที่จะสนับสนุนเกษตรกรที่อยู่ในพื้นที่แนวเขื่อน ให้เริ่มการเพาะปลูกข้าวนาปรัง ในช่วงสัปดาห์ที่ 2 ของเดือนพฤษภาคมนี้ได้ โดยกรมชลประทานคาดว่าจะมีปริมาณน้ำประมาณ 3,100-3,200 ล้านลูกบาศก์เมตร จากเขื่อนภูมิพล เขื่อนสิริกิติ์ เขื่อนแควน้อย และเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ช่วยสนับสนุนการเพาะปลูกได้ แต่ต้องทยอยทำ
ส่วนพื้นที่เกษตรที่อยู่นอกแนวชลประทาน ยังขอให้ชะลอการเพาะปลูกข้าวนาปรังออกไปก่อน จนกว่าจะได้รับการยืนยันจากกรมอุตุนิยมวิทยาว่าเข้าฤดูฝนอย่างแท้จริง และมีปริมาณฝนมากพอที่จะทำนาปรังได้ เพื่อป้องกันปัญหาข้าวขาดน้ำ ยืนต้นตาย หากปริมาณฝนมีไม่เพียงพอ
ส่วนพื้นที่เกษตรที่อยู่นอกแนวชลประทาน ยังขอให้ชะลอการเพาะปลูกข้าวนาปรังออกไปก่อน จนกว่าจะได้รับการยืนยันจากกรมอุตุนิยมวิทยาว่าเข้าฤดูฝนอย่างแท้จริง และมีปริมาณฝนมากพอที่จะทำนาปรังได้ เพื่อป้องกันปัญหาข้าวขาดน้ำ ยืนต้นตาย หากปริมาณฝนมีไม่เพียงพอ