นายสมเกียรติ ชูพรรคเจริญ นายกสมาคมส่งเสริมการรับช่วงการผลิตไทย กล่าวว่า การผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ขณะนี้ปรับลดลงประมาณร้อยละ 20-30 ต่อเนื่องตั้งแต่กลางปี 2556 คาดว่าจะต่อเนื่องไปจนถึงปลายปี 2557 นับเป็นการปรับฐานสู่ความต้องการที่แท้จริงของตลาดหลังจากสิ้นสุดโครงการรถยนต์คันแรกที่ช่วงนั้นต้องเร่งผลิตสูงสุดเป็นประวัติการณ์
นายสมเกียรติ กล่าวว่า ขณะนี้สมาคมส่งเสริมการรับช่วงการผลิตไทยให้ผู้ประกอบการเตรียมตัวและเตรียมพร้อมปรับปรุงกระบวนการผลิตให้ดียิ่งขึ้น โดยใช้เทคโนโลยีช่วยในการผลิตที่สูงขึ้น ระบบอัตโนมัติมากยิ่งขึ้น เพื่อลดต้นทุนและคุณภาพสินค้าที่ดีกว่าเดิม เพราะขณะนี้ไทยล้าหลังหากเทียบกับประเทศญี่ปุ่นถึง 10 ปี เพราะต้องเผชิญกับปัญหาน้ำท่วมใหญ่ปี 2554 และปัญหาการเมือง พร้อมกันนี้ ต้องเร่งเดินหน้าเตรียมความพร้อมรองรับประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (เออีซี) ปี 2558 เพราะตลาดจะขยายเพิ่มขึ้นอีก 10 เท่าตัว ทำให้อุตสาหกรรมรับช่วงการผลิตของไทยจะกลับไปมียอดการผลิตชิ้นส่วนยานยนต์สูงสุดเป็นประวัติการณ์อีกครั้ง หากรัฐบาลและเอกชนร่วมมือกันอย่างดีในหลายๆ ด้าน
สำหรับปัจจัยสนับสนุนให้อุตสาหกรรมรับช่วงการผลิตกลับมาเติบโตสูงสุดอีกครั้งมาจากปัจจัยการผลิตที่เพิ่มขึ้นป้อนตลาดเออีซี และยังจะมีการผลิตที่เพิ่มขึ้นจากการเดินหน้าโครงการรถยนต์ประหยัดพลังงาน (อีโคคาร์ ระยะที่ 2) จำนวน 10 ราย มูลค่าเงินลงทุนรวมกว่า 138,889.8 ล้านบาท จะทำให้ประเทศไทยมีกำลังการผลิตรถยนต์รวมเพิ่มขึ้นอีก 1,581,000 คัน จากปัจจุบันประเทศไทยมีกำลังการผลิตรถยนต์อยู่แล้วประมาณปีละ 2,400,000-2,500,000 คัน
ทั้งนี้ สมาคมส่งเสริมการรับช่วงการผลิตไทยคาดหวังให้ประเทศไทยก้าวขึ้นสู่การเป็นประเทศผู้ผลิตชิ้นส่วนรายใหญ่ที่สุดในอาเซียน
นายสมเกียรติ กล่าวว่า ขณะนี้สมาคมส่งเสริมการรับช่วงการผลิตไทยให้ผู้ประกอบการเตรียมตัวและเตรียมพร้อมปรับปรุงกระบวนการผลิตให้ดียิ่งขึ้น โดยใช้เทคโนโลยีช่วยในการผลิตที่สูงขึ้น ระบบอัตโนมัติมากยิ่งขึ้น เพื่อลดต้นทุนและคุณภาพสินค้าที่ดีกว่าเดิม เพราะขณะนี้ไทยล้าหลังหากเทียบกับประเทศญี่ปุ่นถึง 10 ปี เพราะต้องเผชิญกับปัญหาน้ำท่วมใหญ่ปี 2554 และปัญหาการเมือง พร้อมกันนี้ ต้องเร่งเดินหน้าเตรียมความพร้อมรองรับประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (เออีซี) ปี 2558 เพราะตลาดจะขยายเพิ่มขึ้นอีก 10 เท่าตัว ทำให้อุตสาหกรรมรับช่วงการผลิตของไทยจะกลับไปมียอดการผลิตชิ้นส่วนยานยนต์สูงสุดเป็นประวัติการณ์อีกครั้ง หากรัฐบาลและเอกชนร่วมมือกันอย่างดีในหลายๆ ด้าน
สำหรับปัจจัยสนับสนุนให้อุตสาหกรรมรับช่วงการผลิตกลับมาเติบโตสูงสุดอีกครั้งมาจากปัจจัยการผลิตที่เพิ่มขึ้นป้อนตลาดเออีซี และยังจะมีการผลิตที่เพิ่มขึ้นจากการเดินหน้าโครงการรถยนต์ประหยัดพลังงาน (อีโคคาร์ ระยะที่ 2) จำนวน 10 ราย มูลค่าเงินลงทุนรวมกว่า 138,889.8 ล้านบาท จะทำให้ประเทศไทยมีกำลังการผลิตรถยนต์รวมเพิ่มขึ้นอีก 1,581,000 คัน จากปัจจุบันประเทศไทยมีกำลังการผลิตรถยนต์อยู่แล้วประมาณปีละ 2,400,000-2,500,000 คัน
ทั้งนี้ สมาคมส่งเสริมการรับช่วงการผลิตไทยคาดหวังให้ประเทศไทยก้าวขึ้นสู่การเป็นประเทศผู้ผลิตชิ้นส่วนรายใหญ่ที่สุดในอาเซียน