นายศุภชัย สมเจริญประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กล่าวถึงกรณีที่พรรคประชาธิปัตย์ ตั้งเงื่อนไขการหารือระหว่าง กกต. กับผู้แทนพรรคการเมือง ในวันที่ 22 เมษายน เพื่อกำหนดวันเลือกตั้งโดยระบุว่า ต้องมีหัวหน้าพรรคเพื่อไทยมาร่วมประชุม และมีการถ่ายทอดสดถึงจะมาร่วมประชุม ว่าคงจะไม่มีการถ่ายทอดสดการหารือดังกล่าว เพราะ กกต.จะไปสั่งให้ใครมาถ่ายทอดสดไม่ได้ และต้องมีการพูดคุยหารือกันในที่ประชุม กกต. ก่อน เพราะตนคนเดียวคงไม่มีความเห็นในเรื่องนี้
ประธาน กกต. ระบุว่า ตนก็ไม่ทราบเจตนารมณ์ของพรรคประชาธิปัตย์ แต่เมื่อเป็นพรรคการเมืองก็ต้องฟังทุกพรรคเราเชิญไปแล้ว ส่วนพรรคไหนจะให้ความสำคัญกับการประชุมแค่ไหนเราก็ไม่อาจทราบได้ มาดูกันวันนั้นต้องถามความเห็นทุกฝ่ายเอามาให้ตกผลึกว่า การจัดเลือกตั้งเมื่อไหร่แล้วมันต้องได้ผล
นายศุภชัย กล่าวด้วยว่า ยังไม่สามารถคาดการณ์ล่วงหน้าว่า ในที่ประชุมในวันที่22 เมษายนนี้ จะได้ข้อสรุปเรื่องวันเลือกตั้งหรือไม่ โดยต้องรับฟังเหตุผลจากทุกพรรคก่อนรวมทั้งยังต้องพิจารณาข้อเสนอของตัวแทนสภาความมั่นคงแห่งชาติที่เสนอไว้ว่า ควรจะหารือรับฟังความคิดเห็นของภาคเอกชนทั้งสภาหอการค้า และสภาอุตสาหกรรมก่อน ซึ่ง กกต.ยังต้องมาคุยกันว่า ต้องรับฟังตามข้อเสนอหรือไม่
นายศุภชัย กล่าวต่อไปว่า เราก็อยากให้มีการเลือกตั้งเสร็จเร็วๆ เพราะรัฐบาลที่รักษาการนานเกินไปไม่เป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติ ขณะเดียวกันการจัดการเลือกตั้งทั้งที่ยังไม่สงบมันก็จะเสียงบประมาณกันเปล่าๆ โดยวันที่ 17 เมษายนนี้ กกต. จะมีการนัดประชุมตามปกติ ซึ่งก็อาจจะมีการหารือในเรื่องนี้ รวมทั้งกรณีของการประกาศรับรองผล ส.ว. ที่ยังค้างอยู่ 19 จังหวัด ซึ่งฝ่ายสืบสวนสอบสวนได้ลงพื้นที่ไปทำงานระหว่างวันหยุดสงกรานต์ หากเรื่องร้องเรียนเรื่องใดที่มีรายละเอียดข้อเท็จจริงไม่มากเช่น คำร้องเกี่ยวกับป้ายหาเสียงที่ข้อเท็จจริง และพยานหาได้ง่ายหากสรุปสำนวนทันหรือทางจังหวัดสรุปว่า ไม่มีมูล อาจจะเสนอเข้าที่ประชุมกกต. ให้ประกาศรับรองได้ก่อน แต่ก็ยังไม่มีระเบียบวาระในเรื่องนี้โดยตรง
ประธาน กกต. ระบุว่า ตนก็ไม่ทราบเจตนารมณ์ของพรรคประชาธิปัตย์ แต่เมื่อเป็นพรรคการเมืองก็ต้องฟังทุกพรรคเราเชิญไปแล้ว ส่วนพรรคไหนจะให้ความสำคัญกับการประชุมแค่ไหนเราก็ไม่อาจทราบได้ มาดูกันวันนั้นต้องถามความเห็นทุกฝ่ายเอามาให้ตกผลึกว่า การจัดเลือกตั้งเมื่อไหร่แล้วมันต้องได้ผล
นายศุภชัย กล่าวด้วยว่า ยังไม่สามารถคาดการณ์ล่วงหน้าว่า ในที่ประชุมในวันที่22 เมษายนนี้ จะได้ข้อสรุปเรื่องวันเลือกตั้งหรือไม่ โดยต้องรับฟังเหตุผลจากทุกพรรคก่อนรวมทั้งยังต้องพิจารณาข้อเสนอของตัวแทนสภาความมั่นคงแห่งชาติที่เสนอไว้ว่า ควรจะหารือรับฟังความคิดเห็นของภาคเอกชนทั้งสภาหอการค้า และสภาอุตสาหกรรมก่อน ซึ่ง กกต.ยังต้องมาคุยกันว่า ต้องรับฟังตามข้อเสนอหรือไม่
นายศุภชัย กล่าวต่อไปว่า เราก็อยากให้มีการเลือกตั้งเสร็จเร็วๆ เพราะรัฐบาลที่รักษาการนานเกินไปไม่เป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติ ขณะเดียวกันการจัดการเลือกตั้งทั้งที่ยังไม่สงบมันก็จะเสียงบประมาณกันเปล่าๆ โดยวันที่ 17 เมษายนนี้ กกต. จะมีการนัดประชุมตามปกติ ซึ่งก็อาจจะมีการหารือในเรื่องนี้ รวมทั้งกรณีของการประกาศรับรองผล ส.ว. ที่ยังค้างอยู่ 19 จังหวัด ซึ่งฝ่ายสืบสวนสอบสวนได้ลงพื้นที่ไปทำงานระหว่างวันหยุดสงกรานต์ หากเรื่องร้องเรียนเรื่องใดที่มีรายละเอียดข้อเท็จจริงไม่มากเช่น คำร้องเกี่ยวกับป้ายหาเสียงที่ข้อเท็จจริง และพยานหาได้ง่ายหากสรุปสำนวนทันหรือทางจังหวัดสรุปว่า ไม่มีมูล อาจจะเสนอเข้าที่ประชุมกกต. ให้ประกาศรับรองได้ก่อน แต่ก็ยังไม่มีระเบียบวาระในเรื่องนี้โดยตรง