นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย ยื่นหลักฐานถอดคำปราศรัยของนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส.เมื่อวันที่ 5 เมษายน ประเด็นประกาศตั้งตนเป็นรัฏฐาธิปัตย์ พร้อมนำซีดีบันทึกการปราศรัยมอบแก่นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เพื่อให้ดำเนินคดีอาญากับนายสุเทพ และพวก ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 113 ในข้อหากบฏในราชอาณาจักร
นายธาริต ยืนยันว่า พนักงานสอบสวนดีเอสไอ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ อัยการสูงสุด ติดตามความเคลื่อนไหวดังกล่าวมาโดยตลอด โดยเฉพาะวันที่ 5 ที่มีการประชุมแกนนำ กปปส. และนำมติที่ประชุมให้นายสุเทพ กล่าวบนเวทีปราศรัย จึงไม่ใช่ความผิดเฉพาะตัวของนายสุเทพ ซึ่งผู้อำนวยการ ศอ.รส.สั่งนำหลักฐานทั้งหมดหารือที่ประชุมใหญ่ ศอ.รส.วันนี้ด้วย
ขณะที่ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย (ศอ.รส.) เห็นว่าเป็นความผิดพลาดของนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส. ที่ปราศรัยตั้งตนเป็นรัฏฐาธิปัตย์ คำปราศรัยของนายสุเทพ จึงเป็นหลักฐานดำเนินคดีกับนายสุเทพ และพวก นอกจากนี้ จะให้ทหารที่ ศอ.รส.แต่งตั้ง เป็นเจ้าพนักงาน ซึ่งเดิมเป็นผู้ช่วยเจ้าพนักงานนั้น มีอำนาจในการเข้าตรวจค้น คปท. เนื่องจากมีหลักฐานชัดเจน และมีพยานเห็นว่าเป็นฝ่ายยิงทหารชุดหาข่าว บาดเจ็บสาหัส 2 นาย เมื่อคืนวันเสาร์ที่ผ่านมา
ส่วนความคืบหน้าคดีวางระเบิดรถยกจราจร สน.ดุสิต ผู้อำนวยการ ศอ.รส.ยืนยันว่า มีเบาะแสผู้ที่ก่อเหตุแล้ว กำลังเร่งหาหลักฐานดำเนินคดี ทั้งนี้ ย้ำว่า ตราบใดที่ยังเป็นผู้อำนวยการ ศอ.รส.จะไม่มีวันให้มวลชนที่มีความเห็นต่างกัน เผชิญหน้ากันอย่างเด็ดขาด
นายธาริต ยืนยันว่า พนักงานสอบสวนดีเอสไอ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ อัยการสูงสุด ติดตามความเคลื่อนไหวดังกล่าวมาโดยตลอด โดยเฉพาะวันที่ 5 ที่มีการประชุมแกนนำ กปปส. และนำมติที่ประชุมให้นายสุเทพ กล่าวบนเวทีปราศรัย จึงไม่ใช่ความผิดเฉพาะตัวของนายสุเทพ ซึ่งผู้อำนวยการ ศอ.รส.สั่งนำหลักฐานทั้งหมดหารือที่ประชุมใหญ่ ศอ.รส.วันนี้ด้วย
ขณะที่ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย (ศอ.รส.) เห็นว่าเป็นความผิดพลาดของนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส. ที่ปราศรัยตั้งตนเป็นรัฏฐาธิปัตย์ คำปราศรัยของนายสุเทพ จึงเป็นหลักฐานดำเนินคดีกับนายสุเทพ และพวก นอกจากนี้ จะให้ทหารที่ ศอ.รส.แต่งตั้ง เป็นเจ้าพนักงาน ซึ่งเดิมเป็นผู้ช่วยเจ้าพนักงานนั้น มีอำนาจในการเข้าตรวจค้น คปท. เนื่องจากมีหลักฐานชัดเจน และมีพยานเห็นว่าเป็นฝ่ายยิงทหารชุดหาข่าว บาดเจ็บสาหัส 2 นาย เมื่อคืนวันเสาร์ที่ผ่านมา
ส่วนความคืบหน้าคดีวางระเบิดรถยกจราจร สน.ดุสิต ผู้อำนวยการ ศอ.รส.ยืนยันว่า มีเบาะแสผู้ที่ก่อเหตุแล้ว กำลังเร่งหาหลักฐานดำเนินคดี ทั้งนี้ ย้ำว่า ตราบใดที่ยังเป็นผู้อำนวยการ ศอ.รส.จะไม่มีวันให้มวลชนที่มีความเห็นต่างกัน เผชิญหน้ากันอย่างเด็ดขาด