จากกรณีคนร้ายก่อเหตุสะเทือนขวัญบุกยิง ร.ต.ท.ธรรมนัฐ หอมชง ร้อยเวร สน.ตลิ่งชัน นรต.รุ่น 66 เสียชีวิตพร้อม พ.อ.วิชัย หอมชง และนางวนิดา หองชง พ่อและแม่ คาบ้านพักย่านบางแคเมื่อช่วงหัวค่ำวันที่ 3 เมษายน ที่ผ่านมา โดยที่นายกิตตินันท์ หรือเต้ย หอมชง อายุ 22 ปี ลูกชายคนเล็ก ให้การรับสารภาพว่าเป็นผู้วางแผนสังหารพ่อ แม่ และพี่ชายของตนเอง เพื่อหวังฮุบมรดกมูลค่ามหาศาล จากนั้น ตำรวจสามารถจับกุมทีมสังหารได้เพิ่มอีก 3 รายคือ นายศักรินทร์ หรือกอล์ฟ พันธกุล อายุ 22 ปี เพื่อนชายคนสนิท นายฉลาด หรืออาจารย์ป๊อด เที่ยงธรรม อายุ 53 ปี คนขับรถแท็กซี่คอยรับส่งมือปืน และนายสุระพงษ์ หรือจ่าแอ๊ด ชูพันธ์ อายุ 47 ปี มือปืนที่คอยระวังหลังให้กับมือปืนอีกราย และยังเหลือนายสิริชัย หรือป้อม เพิ่มพูนศักดิ์ มือปืนผู้ลงมือยิงอีก 1 คน ที่ยังหลบหนีอยู่
ล่าสุด กลางดึกคืนวันที่ 7 เมษายน นายสิริชัย ได้เดินทางเข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สน.สุทธิสาร เพื่อรับทราบข้อกล่าวหาทั้งหมด พนักงานสอบสวนจึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบตามลำดับชั้น ก่อนที่ พล.ต.ต.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล พ.ต.อ.พงศ์อานันต์ คล้ายคลึง รองผู้บังคับการตำรวจนครบาล 9 พ.ต.อ.ภาณุเดช สุขวงศ์ ผู้กำกับการ สน.หลักสอง จะเข้าสอบปากคำนายสิริชัยอย่างละเอียดที่ห้องสืบสวน สน.สุทธิสาร เพื่อหาพยานหลักฐานและความเชื่อมโยงในจุดเกิดเหตุให้เสร็จสิ้นโดยเร็ว เนื่องจากเกรงว่าพยานหลักฐานอาจถูกทำลายได้
ทั้งนี้ นายสิริชัยให้การรับสารภาพกับชุดคลี่คลายคดี อ้างว่าเป็นคนลงมือก่อเหตุยิงผู้ตายทั้ง 3 คนจริง แต่ตอนเจรจาว่าจ้างนั้นไม่ทราบว่าผู้ตายทั้ง 3คน เป็นพ่อแม่และพี่ชายของนายกิตตินันท์ ซึ่งตอนเจรจาว่าจ้าง นายกิตตินันท์ได้นั่งเจรจาอยู่ด้วย แต่ไม่ได้บอกความจริง ทราบแต่เพียงว่า นายกิตตินันท์ถูกทั้ง 3 คน เบี้ยวเงินที่ยืมไป จึงรับงานมา แต่ภายหลังมาทราบข่าวว่า ผู้ตายทั้ง 3 คน เป็นพ่อแม่และพี่ชายของนายกิตตินันท์ ทำให้รู้สึกเสียใจจึงเข้ามอบตัว ส่วนอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุนั้นซ่อนอยู่โรงรถของบ้านมารดา ย่านอินทามระ ฝ่ายสืบสวน สน.หลักสอง จึงนำกำลังไปทำการค้นหาจนเจอปืนจริงตามคำกล่าวอ้างและเก็บไว้เป็นหลักฐาน
อย่างไรก็ตาม พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล จะมีการแถลงข่าวอย่างเป็นทางการอีกครั้งในวันนี้เวลา 11.00 น.
ล่าสุด กลางดึกคืนวันที่ 7 เมษายน นายสิริชัย ได้เดินทางเข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สน.สุทธิสาร เพื่อรับทราบข้อกล่าวหาทั้งหมด พนักงานสอบสวนจึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบตามลำดับชั้น ก่อนที่ พล.ต.ต.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล พ.ต.อ.พงศ์อานันต์ คล้ายคลึง รองผู้บังคับการตำรวจนครบาล 9 พ.ต.อ.ภาณุเดช สุขวงศ์ ผู้กำกับการ สน.หลักสอง จะเข้าสอบปากคำนายสิริชัยอย่างละเอียดที่ห้องสืบสวน สน.สุทธิสาร เพื่อหาพยานหลักฐานและความเชื่อมโยงในจุดเกิดเหตุให้เสร็จสิ้นโดยเร็ว เนื่องจากเกรงว่าพยานหลักฐานอาจถูกทำลายได้
ทั้งนี้ นายสิริชัยให้การรับสารภาพกับชุดคลี่คลายคดี อ้างว่าเป็นคนลงมือก่อเหตุยิงผู้ตายทั้ง 3 คนจริง แต่ตอนเจรจาว่าจ้างนั้นไม่ทราบว่าผู้ตายทั้ง 3คน เป็นพ่อแม่และพี่ชายของนายกิตตินันท์ ซึ่งตอนเจรจาว่าจ้าง นายกิตตินันท์ได้นั่งเจรจาอยู่ด้วย แต่ไม่ได้บอกความจริง ทราบแต่เพียงว่า นายกิตตินันท์ถูกทั้ง 3 คน เบี้ยวเงินที่ยืมไป จึงรับงานมา แต่ภายหลังมาทราบข่าวว่า ผู้ตายทั้ง 3 คน เป็นพ่อแม่และพี่ชายของนายกิตตินันท์ ทำให้รู้สึกเสียใจจึงเข้ามอบตัว ส่วนอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุนั้นซ่อนอยู่โรงรถของบ้านมารดา ย่านอินทามระ ฝ่ายสืบสวน สน.หลักสอง จึงนำกำลังไปทำการค้นหาจนเจอปืนจริงตามคำกล่าวอ้างและเก็บไว้เป็นหลักฐาน
อย่างไรก็ตาม พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล จะมีการแถลงข่าวอย่างเป็นทางการอีกครั้งในวันนี้เวลา 11.00 น.