ลูกชายคนเล็กเปิดปากรับสารภาพ จ้างฆ่าพ่อแม่และพี่ชายตัวเอง

ลูกชายคนเล็กตระกูล “หอมชง” รับสารภาพวางแผนจ้างวานเพื่อนให้บุกฆ่าพ่อแม่และพี่ชายตัวเองคาบ้านพัก 3 ศพ อ้างเก็บกด พ่อแม่รักพี่ชายมากกว่า ด้านตำรวจเร่งติดตามตัวเพื่อนที่ก่อเหตุและอยู่ระหว่างหลบหนีอีก 2 ราย

วันนี้ (5 เม.ย.) ความคืบหน้าคดีฆ่าโหดครอบครัว “หอมชง” คาบ้านพักย่านหลักสอง มีผู้เสียชีวิตจำนวน 3 ราย คือ พ.อ.วิชัย หอมชง อายุ 63 ปี ข้าราชการบำนาญ กรมแพทย์ทหารบก นางวนิดา หอมชง อายุ 57 ปี ครูโรงเรียนราชวินิตประถมบางแค และ ร.ต.ท.ธรรมณัฐ หอมชง หรือหมวดเติ้ล อายุ 27 ปี นรต.รุ่น 66 พนักงานสอบสวน สน.ตลิ่งชัน ทั้งนี้หลังเกิดเหตุตำรวจได้ควบคุมตัวนายกิตตินันท์ หอมชง หรือเต้ย อายุ 22 ปี ลูกชายคนเล็กของครอบครัว ซึ่งตกเป็นผู้ต้องสงสัยในคดีนี้ มาสอบปากคำอย่างเคร่งเครียดตั้งแต่เมื่อคืนวานนี้

ล่าสุดผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่นายกิตตินันท์ถูกสอบปากคำอย่างหนักตลอด 2 คืนที่ผ่านมา นายกิตตินันท์ก็ยอมเปิดปากรับสารภาพว่าได้ร่วมกับหนุ่มคู่ขา ชื่อ นายกอล์ฟ วางแผนจ้างวานเพื่อนอีก 2 คนให้บุกเข้าไปยังบ้านหลังดังกล่าวเพื่อก่อเหตุยิงพ่อ แม่ และพี่ชายตนเองจนเสียชีวิต เพราะต้องการมรดกทั้งหมด อีกทั้งยังรู้สึกว่าพ่อ แม่ ลำเอียงรักลูกไม่เท่ากัน โดยพ่อแม่ให้ความรักกับ ร.ต.ท.ธรรมณัฐ หรือหมวดเติ้ล พี่ชายตนมากกว่า จึงรู้สึกเก็บกด

โดยขณะนี้ฝ่ายสืบสวน บก.สส.บช.น.ได้ควบคุมตัว นายกิตตินันท์ และนายกอล์ฟ คู่ขาเอาไว้แล้ว และอยู่ระหว่างติดตามตัวผู้ต้องหาที่เหลือ ซึ่งยังไม่ทราบชื่ออีก 2 ราย เชื่อว่าเป็นผู้ลงมือก่อเหตุครั้งนี้ ก่อนหลบหนีไปพร้อมกับอาวุธปืนขนาด 9 มม.และได้รับค่าเดินทางจากนายกิตตินันท์ไปเพียง 1,000 บาท สำหรับใช้ในการหลบหนี โดยมีการตกลงกันว่าถ้างานสำเร็จและเรื่องเงียบลงจะนัดรวมตัวเพื่อให้ค่าตอบแทนอีกก้อนหนึ่ง

ด้าน พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เรียกประชุมชุดสืบสวนติดตามความคืบหน้าคดีคนร้ายใช้อาวุธปืนฆ่ายกครัวในพื้นที่ สน.หลักสอง จนมีผู้เสียชีวิตถึง 3 ราย คือ พ.อ.วิชัย หอมชง ทหารนอกราชการ นางวนิดา หอมชง ครูโรงเรียนราชวินิตประถม บางแค และ ร.ต.ท.ธนัตถ์พง หอมชง พนักงานสอบสวน สน.ตลิ่งชัน นรต.รุ่น 66

พล.ต.ท.คำรณวิทย์ให้สัมภาษณ์ก่อนประชุมยืนยันว่า นายกิตตินันท์ หอมชง ลูกชายคนเล็กยังไม่ให้การรับสารภาพตามที่มีกระแสข่าวว่าเป็นผู้สั่งจ้างเพื่อนให้ฆ่าคนในครอบครัว 3 ศพ เพื่อหวังเงินมรดก แต่ยอมรับว่าลูกชายคนเล็กให้การเป็นประโยชน์ต่อรูปคดี โดยไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดใดได้มากเพราะเกรงว่าจะเสียรูปคดีและคนร้ายจะไหวตัว

โดยขณะนี้ตำรวจยังไม่ตัดประเด็นใดทิ้ง และยังอยู่ระหว่างการสอบสวนขยายผล และรวบรวมพยานหลักฐานให้ชัดเจนซึ่งต้องทำอย่างละเอียดรอบคอบ และให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย และในวันนี้จะตัดทุกประเด็นที่มีแนวโน้มว่าจะะไม่เกี่ยวข้องออกไป เพื่อจำกัดวงให้แคบที่สุด