นายเดชรัฐ สิมศิริ ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา เปิดเผยว่า ตั้งแต่ฝนทิ้งช่วงมากว่า 2 เดือน ทางจังหวัดได้ออกคำสั่งแต่งตั้งคณะทำงานและจัดตั้งศูนย์ป้องกันและบรรเทาภัยแล้งมาโดยตลอด รวมทั้งทุกหน่วยที่เกี่ยวข้องร่วมกันออกแก้ไขปัญหาภัยแล้งให้แก่ประชาชนตามที่ประชาชนร้องขอ ทุกอำเภอได้มีการจัดตั้งศูนย์แก้ปัญหาภัยแล้งประจำอำเภอ
อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบสภาพภูมิอากาศแล้วภัยแล้งยังคงจะต้องมีอยู่ต่อไปจนถึงหลังสงกรานต์ และปีนี้ถือว่าจังหวัดยะลาได้รับผลกระทบรุนแรงที่สุดในรอบ 10 ปี โดยภัยแล้งที่เกิดขึ้นใช้เวลาค่อนข้างนาน และปีนี้ฝนทิ้งช่วงร่วม 2 เดือน และจะแล้งไปจนถึงหลังสงกรานต์ ซึ่งเท่ากับว่าปีนี้ภัยแล้งเกิดขึ้นร่วม 4 เดือน
นายเดชรัฐ กล่าวอีกว่า ในส่วนของพื้นที่เสี่ยงกับการเกิดปัญหาภัยแล้งในพื้นที่จังหวัดยะลาถือว่าภัยแล้งเกิดขึ้นเกือบทุกอำเภอ แต่พื้นที่ที่ประสบปัญหาน้อยที่สุด คือ พื้นที่รอบทะเลสาบฮาลาบาลา เนื่องจากยังมีน้ำในทะเลสาบที่สามารถสูบขึ้นมาใช้ได้และพื้นที่รอบริมแม่น้ำสายบุรี แม่น้ำปัตตานีก็เช่นกัน แต่พื้นที่ห่างไกลจากแหล่งน้ำทั้ง 3 นี้ ค่อนข้างมีปัญหาไม่เว้นแม้กระทั่งป่าเขาก็ประสบปัญหา
นอกจากนี้ ยังพบปัญหาชาวบ้านเผาป่าทำให้เกิดปัญหาไฟไหม้ป่าซ้ำ สร้างความเสียหายเพิ่มขึ้น จึงอยากฝากประชาสัมพันธ์ให้ชาวบ้านหลีกเลี่ยงการเผาป่าด้วย
อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบสภาพภูมิอากาศแล้วภัยแล้งยังคงจะต้องมีอยู่ต่อไปจนถึงหลังสงกรานต์ และปีนี้ถือว่าจังหวัดยะลาได้รับผลกระทบรุนแรงที่สุดในรอบ 10 ปี โดยภัยแล้งที่เกิดขึ้นใช้เวลาค่อนข้างนาน และปีนี้ฝนทิ้งช่วงร่วม 2 เดือน และจะแล้งไปจนถึงหลังสงกรานต์ ซึ่งเท่ากับว่าปีนี้ภัยแล้งเกิดขึ้นร่วม 4 เดือน
นายเดชรัฐ กล่าวอีกว่า ในส่วนของพื้นที่เสี่ยงกับการเกิดปัญหาภัยแล้งในพื้นที่จังหวัดยะลาถือว่าภัยแล้งเกิดขึ้นเกือบทุกอำเภอ แต่พื้นที่ที่ประสบปัญหาน้อยที่สุด คือ พื้นที่รอบทะเลสาบฮาลาบาลา เนื่องจากยังมีน้ำในทะเลสาบที่สามารถสูบขึ้นมาใช้ได้และพื้นที่รอบริมแม่น้ำสายบุรี แม่น้ำปัตตานีก็เช่นกัน แต่พื้นที่ห่างไกลจากแหล่งน้ำทั้ง 3 นี้ ค่อนข้างมีปัญหาไม่เว้นแม้กระทั่งป่าเขาก็ประสบปัญหา
นอกจากนี้ ยังพบปัญหาชาวบ้านเผาป่าทำให้เกิดปัญหาไฟไหม้ป่าซ้ำ สร้างความเสียหายเพิ่มขึ้น จึงอยากฝากประชาสัมพันธ์ให้ชาวบ้านหลีกเลี่ยงการเผาป่าด้วย