พล.ต.ต.ปิยะ อุทาโย โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้สั่งการให้ทุกหน่วย เตรียมแผนป้องกันและรักษาความปลอดภัยบุคคลหรือสถานที่ ที่อาจตกเป็นเป้าหมายในการก่อเหตุแทรกซ้อน หลังศาลรัฐธรรมนูญ มีมติให้การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเป็นการทั่วไป เมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2557 ขัดต่อรัฐธรรมนูญ โดยให้เพิ่มความเข้มงวดในการตรวจตราสถานที่สำคัญ โดยเฉพาะศาลรัฐธรรมนูญ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ศาล และองค์กรอิสระอื่นๆ รวมทั้งบ้านพักตุลาการศาลรัฐธรรมนูญและผู้พิพากษา พร้อมวางระบบรับแจ้งเหตุให้เป็นไปด้วยความรวดเร็ว ตลอดเวลา
นอกจากนี้ ให้ตั้งจุดตรวจจุดสกัดรอบพื้นที่ล่อแหลม เพื่อคัดกรองบุคคล ยานพาหนะ เน้นการตรวจค้นอาวุธ วัตถุระเบิด สิ่งผิดกฎหมาย รวมทั้งถ่ายรูป ทำประวัติวัยรุ่น กลุ่มเสี่ยง และยานพาหนะต้องสงสัย จัดสายตรวจในรัศมี 400 เมตรอย่างจริงจัง เพื่อป้องกันการใช้อาวุธยิงวิถีโค้ง รวมทั้งให้ตรวจสอบสภาพกล้องวงจรปิดบนเส้นทางและสถานที่เป้าหมาย ปรับมุมกล้องให้สามารถบันทึกภาพบุคคล ยานพาหนะในเส้นทางได้อย่างชัดเจน เพื่อประโยชน์ในการสืบสวนจับกุม ขณะเดียวกันให้ตำรวจสันติบาลเพิ่มมาตรการเชิงรุกด้านการข่าว เพื่อติดตามสถานการณ์ความเคลื่อนไหวของกลุ่มบุคคลเป้าหมาย และให้หน่วยเก็บกู้และตรวจพิสูจน์ระเบิด สำนักงานพิสูจน์หลักฐาน เตรียมชุดตรวจพิสูจน์ เก็บกู้ และทำลายวัตถุระเบิดให้พร้อมสามารถปฏิบัติงานได้ทันทีเมื่อได้รับการประสานจากท้องที่
นอกจากนี้ ให้ตั้งจุดตรวจจุดสกัดรอบพื้นที่ล่อแหลม เพื่อคัดกรองบุคคล ยานพาหนะ เน้นการตรวจค้นอาวุธ วัตถุระเบิด สิ่งผิดกฎหมาย รวมทั้งถ่ายรูป ทำประวัติวัยรุ่น กลุ่มเสี่ยง และยานพาหนะต้องสงสัย จัดสายตรวจในรัศมี 400 เมตรอย่างจริงจัง เพื่อป้องกันการใช้อาวุธยิงวิถีโค้ง รวมทั้งให้ตรวจสอบสภาพกล้องวงจรปิดบนเส้นทางและสถานที่เป้าหมาย ปรับมุมกล้องให้สามารถบันทึกภาพบุคคล ยานพาหนะในเส้นทางได้อย่างชัดเจน เพื่อประโยชน์ในการสืบสวนจับกุม ขณะเดียวกันให้ตำรวจสันติบาลเพิ่มมาตรการเชิงรุกด้านการข่าว เพื่อติดตามสถานการณ์ความเคลื่อนไหวของกลุ่มบุคคลเป้าหมาย และให้หน่วยเก็บกู้และตรวจพิสูจน์ระเบิด สำนักงานพิสูจน์หลักฐาน เตรียมชุดตรวจพิสูจน์ เก็บกู้ และทำลายวัตถุระเบิดให้พร้อมสามารถปฏิบัติงานได้ทันทีเมื่อได้รับการประสานจากท้องที่
