พล.ต.วราห์ บุญญะสิทธิ์ ผู้บัญชาการกองพลที่ 1 รักษาพระองค์ กล่าวถึงกรณีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถควบคุมตัว ส.อ.พิษณุ เฟื่องรุ้ง และ ส.ต.ณัฐวุฒิ เชิดสูงเนิน ทหารจากกองพันทหารราบที่ 2 กรมทหารราบที่ 31 รักษาพระองค์ จังหวัดลพบุรี พร้อมอาวุธปืนพกสั้น 11 มม. และปืนเอ็ม 16 ปืน M4A1 พร้อมกระสุนปืนกว่า 2,000 นัด แถวสวนลุมพินีได้วานนี้ ว่า คงต้องให้ตำรวจสืบสวนสอบสวนไปตามกระบวนการยุติธรรมและตามขั้นตอนของกฎหมาย แต่จะเป็นการรับจ้างส่วนตัวตามที่ผู้ต้องหาให้การหรือไม่ คงต้องรอผลการสอบสวนอีกครั้ง โดยยอมรับว่ารู้สึกหนักใจที่มีทหารไปรับงานแบบนี้
อย่างไรก็ตาม ได้สั่งการให้ผู้บังคับบัญชาหรือหน่วยขึ้นตรงไปกวดขันกำลังพลให้อยู่ในระเบียบวินัยแล้ว ซึ่งจะไม่ปกป้องผู้กระทำผิดแน่นอน แต่ระเบียบการสอบสวนจะต้องมีทหารพระธรรมนูญไปร่วมสอบสวนด้วย
ทั้งนี้ เป็นที่น่าสังเกตว่าอาวุธปืนที่ถูกจับกุมได้ไม่ใช่อาวุธของหน่วย คาดว่าอาจซื้อมาและเป็นการรับจ้างส่วนตัว
อย่างไรก็ตาม ได้สั่งการให้ผู้บังคับบัญชาหรือหน่วยขึ้นตรงไปกวดขันกำลังพลให้อยู่ในระเบียบวินัยแล้ว ซึ่งจะไม่ปกป้องผู้กระทำผิดแน่นอน แต่ระเบียบการสอบสวนจะต้องมีทหารพระธรรมนูญไปร่วมสอบสวนด้วย
ทั้งนี้ เป็นที่น่าสังเกตว่าอาวุธปืนที่ถูกจับกุมได้ไม่ใช่อาวุธของหน่วย คาดว่าอาจซื้อมาและเป็นการรับจ้างส่วนตัว
