ส.ส.ระดับอาวุโส 2 คนของรัสเซียเมื่อวันศุกร์(7) แสดงความยินดีต่อแนวโน้มการขออยู่ใต้ร่มธงแดนมอสโกของไครเมีย แม้ถูกสหรัฐฯและอียูออกมาตรการคว่ำบาตรต่อวิกฤตการเผชิญหน้าครั้งรุนแรงที่สุดระหว่างตะวันออกกับตะวันตกนับตั้งแต่สงครามเย็นสิ้นสุดลง
เหล่าประธานจากทั้งสองสภาของมอสโก บอกว่าพวกเขาเคารพการตัดสินใจของรัฐสภาไครเมีย เขตปกครองตนเองที่อยู่ในยูเครนแต่ประชากรส่วนใหญ่เป็นคนพูดภาษารัสเซีย ในการตัดขาดความสัมพันธ์กับเคียฟและจัดลงประชามติในวันที่ 16 มีนาคม ในประเด็นย้ายไปอยู่ภายใต้การปกครองของเครมลิน
"เมื่อประชาชนของไครเมียตัดสินใจเข้าเป็นส่วนหนึ่งของรัสเซียในการลงประชามติ เราก็จะสนับสนุนทางเลือกนี้อย่างไม่มีเงื่อนไขใดๆ" วาเลนตินา มัตวิเยนโก ประธานวุฒิสภากล่าว ส่วนนายเซอร์เก นารีสช์คิน ประธานสภาผู้แทนราษฎรเสริมว่า "เราจะเคารพการตัดสินใจครั้งประวัติศาสตร์ของประชาชนชาวไครเมีย"
ภัยคุกคามที่พอกพูนขึ้นเรื่อยๆจากความแตกแยกระหว่างฝ่ายสนับสนุนยุโรปและฝ่ายฝักใฝ่่รัสเซียในประเทศอดีตสหภาพโซเวียตที่มีประชากร 46 ล้านคน เป็นผลให้ประธานาธิบดีบารัค โอบามา แห่งสหรัฐฯ ต้องต่อสายตรงถึงประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ของรัสเซียในวันศุกร์(7) และพูดคุยกันนานกว่า 1 ชั่วโมง โดยมันนับเป็นการสนทนาทางโทรศัพท์อันยาวนานและเคร่งเครียดระหว่างทั้งคู่เป็นครั้งที่ 2 ในรอบ 5 วัน
ทำเนียบขาวบอกว่าทางโอบามา ได้เน้นระหว่างการสนทนาว่าพฤติกรรมของรัสเซียคือการละเมิดอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดน ซึ่งอาจนำไปสู่มาตรการตอบโต้หลายอย่างภายใต้ควมร่วมมือกับสหภาพยุโรป ส่วนทางเครมลินเผยว่า ปูติน พยายามลดความเตึงครียด โดยย้ำว่าความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯและรัสเซีย ไม่ควรต้องมาสังเวยให้แก่ความเห็นต่างเกี่ยวกับบุคคลหรือปัญหาของนานาชาติ
เหล่าประธานจากทั้งสองสภาของมอสโก บอกว่าพวกเขาเคารพการตัดสินใจของรัฐสภาไครเมีย เขตปกครองตนเองที่อยู่ในยูเครนแต่ประชากรส่วนใหญ่เป็นคนพูดภาษารัสเซีย ในการตัดขาดความสัมพันธ์กับเคียฟและจัดลงประชามติในวันที่ 16 มีนาคม ในประเด็นย้ายไปอยู่ภายใต้การปกครองของเครมลิน
"เมื่อประชาชนของไครเมียตัดสินใจเข้าเป็นส่วนหนึ่งของรัสเซียในการลงประชามติ เราก็จะสนับสนุนทางเลือกนี้อย่างไม่มีเงื่อนไขใดๆ" วาเลนตินา มัตวิเยนโก ประธานวุฒิสภากล่าว ส่วนนายเซอร์เก นารีสช์คิน ประธานสภาผู้แทนราษฎรเสริมว่า "เราจะเคารพการตัดสินใจครั้งประวัติศาสตร์ของประชาชนชาวไครเมีย"
ภัยคุกคามที่พอกพูนขึ้นเรื่อยๆจากความแตกแยกระหว่างฝ่ายสนับสนุนยุโรปและฝ่ายฝักใฝ่่รัสเซียในประเทศอดีตสหภาพโซเวียตที่มีประชากร 46 ล้านคน เป็นผลให้ประธานาธิบดีบารัค โอบามา แห่งสหรัฐฯ ต้องต่อสายตรงถึงประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ของรัสเซียในวันศุกร์(7) และพูดคุยกันนานกว่า 1 ชั่วโมง โดยมันนับเป็นการสนทนาทางโทรศัพท์อันยาวนานและเคร่งเครียดระหว่างทั้งคู่เป็นครั้งที่ 2 ในรอบ 5 วัน
ทำเนียบขาวบอกว่าทางโอบามา ได้เน้นระหว่างการสนทนาว่าพฤติกรรมของรัสเซียคือการละเมิดอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดน ซึ่งอาจนำไปสู่มาตรการตอบโต้หลายอย่างภายใต้ควมร่วมมือกับสหภาพยุโรป ส่วนทางเครมลินเผยว่า ปูติน พยายามลดความเตึงครียด โดยย้ำว่าความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯและรัสเซีย ไม่ควรต้องมาสังเวยให้แก่ความเห็นต่างเกี่ยวกับบุคคลหรือปัญหาของนานาชาติ