นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการคณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์ อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข หรือ กปปส. กล่าวปราศรัยทักทายผู้ชุมนุม หลังนำมวลชน กปปส.จากอีก 3 เวที คือ ปทุมวัน ราชประสงค์ และอโศก มารวมตัวกันที่เวทีใหม่ที่สวนลุมพินี ตามแนวทางที่ กปปส.ประกาศว่า จะยุบรวมเวทีในเขตเศรษฐกิจของกรุงเทพฯ ทั้งหมด ให้เหลือที่เวทีสวนลุมพินีเพียงเวทีเดียว คืนพื้นผิวการจราจรให้กับชาวกรุงเทพฯ
นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ โฆษก กปปส. ยืนยันว่า การยุบเวที กปปส.ให้เหลือเพียงเวทีเดียว และเปิดพื้นผิวการจราจร มีเหตุผลหลักคือ ต้องการคืนพื้นที่การจราจร โดยยืนยันว่า ไม่เกี่ยวข้อง หรือเป็นเงื่อนไขสำหรับการเปิดเจรจากับฝ่ายรัฐบาล เพียงแต่เป็นเหตุการณ์ที่บังเอิญเกิดขึ้นในช่วงเวลาเดียวกัน ซึ่งแนวทางจะเปิดการเจรจานั้น กปปส.ถือว่า ได้ผ่านไปแล้ว เพราะหลังรักษาการนายกรัฐมนตรียื่นเงื่อนไขให้ต้องยุติการชุมนุมก่อน ซึ่งเป็นเงื่อนไขที่ กปปส.ไม่สามารถทำได้ เพราะ กปปส.เพียงเสนอรูปแบบของการเจรจาเท่านั้น คือให้มีการเจรจาแบบตัวต่อตัว ระหว่างนายสุเทพกับรักษาการนายกรัฐมนตรี แต่ก็ไม่ได้รับคำตอบ ดังนั้นการยุบเวทีกับการเจรจา จึงไม่มีเหตุผลเชื่อมโยงกันอย่างแน่นอน โดย กปปส.ยังคงดำเนินกิจกรรมที่เป็นการกดดันรัฐบาลต่อไป ทั้งการปิดสถานที่ราชการ และการกดดันธุรกิจของตระกูลชินวัตร ซึ่งเชื่อว่า ณ ขณะนี้ไม่จำเป็นต้องปิดการจราจรก็สามารถกดดันรัฐบาลได้
ส่วนการดูแลรักษาความปลอดภัยกับผู้ชุมนุมได้มอบให้ นายถาวร เสนเนียม เป็นผู้ดูแล ซึ่งได้มีการเจรจาประสานกับฝ่ายทหารให้เข้ามาดูแลพื้นที่โดยรอบแล้ว สำหรับการเปิดการจราจรทั้ง 4 จุด ซึ่งทางแกนนำกำลังเร่งเคลียร์พื้นที่ เพื่อเปิดพื้นผิวการจราจรทั้งหมดก่อน แต่จะยังมีบางจุดที่ยังคงต้องปิดในช่วงเวลากลางคืนคือ สะพานไทย-ญี่ปุ่น และสะพานไทย-เบลเยียม ต้องมีการปิดตั้งแต่เวลา 19.00 น.จนก่อนรุ่งเช้าทุกวัน
นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ โฆษก กปปส. ยืนยันว่า การยุบเวที กปปส.ให้เหลือเพียงเวทีเดียว และเปิดพื้นผิวการจราจร มีเหตุผลหลักคือ ต้องการคืนพื้นที่การจราจร โดยยืนยันว่า ไม่เกี่ยวข้อง หรือเป็นเงื่อนไขสำหรับการเปิดเจรจากับฝ่ายรัฐบาล เพียงแต่เป็นเหตุการณ์ที่บังเอิญเกิดขึ้นในช่วงเวลาเดียวกัน ซึ่งแนวทางจะเปิดการเจรจานั้น กปปส.ถือว่า ได้ผ่านไปแล้ว เพราะหลังรักษาการนายกรัฐมนตรียื่นเงื่อนไขให้ต้องยุติการชุมนุมก่อน ซึ่งเป็นเงื่อนไขที่ กปปส.ไม่สามารถทำได้ เพราะ กปปส.เพียงเสนอรูปแบบของการเจรจาเท่านั้น คือให้มีการเจรจาแบบตัวต่อตัว ระหว่างนายสุเทพกับรักษาการนายกรัฐมนตรี แต่ก็ไม่ได้รับคำตอบ ดังนั้นการยุบเวทีกับการเจรจา จึงไม่มีเหตุผลเชื่อมโยงกันอย่างแน่นอน โดย กปปส.ยังคงดำเนินกิจกรรมที่เป็นการกดดันรัฐบาลต่อไป ทั้งการปิดสถานที่ราชการ และการกดดันธุรกิจของตระกูลชินวัตร ซึ่งเชื่อว่า ณ ขณะนี้ไม่จำเป็นต้องปิดการจราจรก็สามารถกดดันรัฐบาลได้
ส่วนการดูแลรักษาความปลอดภัยกับผู้ชุมนุมได้มอบให้ นายถาวร เสนเนียม เป็นผู้ดูแล ซึ่งได้มีการเจรจาประสานกับฝ่ายทหารให้เข้ามาดูแลพื้นที่โดยรอบแล้ว สำหรับการเปิดการจราจรทั้ง 4 จุด ซึ่งทางแกนนำกำลังเร่งเคลียร์พื้นที่ เพื่อเปิดพื้นผิวการจราจรทั้งหมดก่อน แต่จะยังมีบางจุดที่ยังคงต้องปิดในช่วงเวลากลางคืนคือ สะพานไทย-ญี่ปุ่น และสะพานไทย-เบลเยียม ต้องมีการปิดตั้งแต่เวลา 19.00 น.จนก่อนรุ่งเช้าทุกวัน