กปปส.แต่งดำ บุกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เรียกร้องขอความเป็นธรรมให้กับผู้บริสุทธิ์ที่เสียชีวิตจากเหตุรุนแรง พร้อมให้เร่งหาตัวคนร้ายมาลงโทษ ขณะที่ สตช.ยอมเปิดประตูรับผู้ชุมนุมตามคำเรียกร้อง เพื่อแสดงความจริงใจ "สุเทพ" ปราศรัย โวย "ยิ่งลักษณ์" ไม่แสดงความรับผิดชอบเหตุบึ้ม ด้าน "อดุลย์" ลงมาคุยเอง ยันไม่นิ่งนอนใจทำคดี ขอม็อบอำนวยความสะดวกให้เข้าพื้นที่ ด้าน เลขาฯ กปปส.ไฮปาร์คขอบคุณ ลั่นไม่หนีไปไหน ก่อนให้มวลชนมอบดอกไม้เจ้าหน้าที่
การชุมนุมของคณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (กปปส.) เวทีแยกปทุมวัน ซึ่งเป็นเวทีหลัก เช้าวันนี้ (26 ก.พ.) บรรยากาศเป็นไปด้วยความปกติ แต่มีการตรวจเข้มการเข้าพื้นที่ชุมนุม หลังจากเมื่อกลางดึกที่ผ่านมา เกิดเหตุคนร้ายใช้ปืนยิง และปาประทัดยักษ์ ใกล้พื้นที่ชุมนุม แต่ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ แต่มวลชนยังคงมีขวัญกำลังใจดี ต่างตื่นขึ้นมาปฏิบัติภารกิจส่วนตัว พร้อมแต่งชุดดำ เตรียมเดินทางร่วมกับ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส.เดินทางไปยังสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อเรียกร้องความเป็นธรรมให้กับวิญญาณผู้บริสิทธิ์ที่เสียชีวิตจากเหตุรุนแรง และเร่งหาตัวคนร้ายมาลงโทษให้ได้ โดยจะยื่นหนังสือถึง พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ขอให้แต่งตั้งนายตำรวจที่เป็นคนดี มีคุณธรรม ไม่เลือกข้าง ไม่เอาตำรวจเสื้อแดงเข้ามาเป็นพนักงานสอบสวนในคดีที่มวลมหาประชาชนถูกยิง และถูกทำร้ายได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต
ส่วน กปปส.เวทีอื่น ทั้งแยกปทุมวัน แยกอโศกมนตรี และเวทีสวนลุมพินี สีลม มวลชนต่างตื่นขึ้นมาทำภารกิจส่วนตัว พร้อมรับประทานอาหาร พร้อมแต่งกายชุดดำเตรียมเดินทางมาสมทบกับขบวนของ นายสุเทพ ในการเดินทางไปสำนักงานตำรวจแห่งชาติเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบภายในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ สถานการณ์ยังเป็นปกติ ไม่มีการเสริมกำลังตำรวจเข้ามาดูแลพื้นที่แต่อย่างใด คาดว่านายตำรวจระดับสูงคงประเมินแล้วว่า กปปส.คงเดินทางมาแสดงสัญลักษณ์ และเรียร้องความเป็นธรรมให้กับผู้เสียชีวิตเท่านั้น คงไม่บุกเข้ามาในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
สำหรับการชุมนุมของกลุ่มเครือข่ายนักศึกษาและประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) บริเวณสะพานชมัยมรุเชฐ ถนนพิษณุโลก มวลชนต่างตื่นขึ้นมาปฏิบัติภารกิจส่วนตัว รับประทานอาหารเช้า และพักผ่อนฟังรายการข่าวผ่านสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม รอแกนนำ คปท.ที่เตรียมนำผู้ชุมนุมเคลื่อนขบวนไปยังจุดหมาย แต่ยังไม่เปิดเผยสถานที่
ต่อมาเวลา 09.00 น. นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย แกนนำ กปปส.ได้นำมวลชนเวทีแยกปทุมวัน เดินทางไปยังสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยมีผู้ชุมนุมเวทีต่างๆ เดินทางมาสมทบ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจาก กปปส.เดินทางมาถึงหน้าสำนักงานตำรวจแห่งชาติ แล้วแกนนำได้ขอให้ตำรวจเปิดประตูทางเข้าเพื่อแสดงความจริงใจ และให้เห็นว่าตำรวจยืนอยู่ข้างประชาชน โดยยืนยันผู้ชุมนุมจะไม่เข้าไปภายใน ต่อมาเวลา 10.10 น. ตำรวจจึงยอมเปิดประตูทางเข้าสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ท่ามกลางเสียงนกหวีดของมวลชนในการแสดงความยินดี จากนั้นเวลา 10.15 น. นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ได้เดินทางมาถึงหน้าสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
เวลา 11.15น. นายสุเทพ กล่าวปราศรัยบนรถเครื่องขยายเสียงหน้าสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ย้ำเจตนารมย์การมาชุมนุมว่า เป็นเพราะ รัฐบาลบริหารจนเกิดการทุจริตคอรัปชั่น สร้างความเสียหายให้ประเทศ จนทำให้ประชาชนไม่สามารถทนเห็นประเทศชาติตกต้องอยู่ภายใต้อำนาจ จึงจำเป็นต้องออกมาเรียกร้องอำนาจอธิปไตยกลับคืนมา ซึ่งการชุมนุมของ กปปส.อยู่ภายใต้รัฐธรนมนูญ แบบสงบ สันติ อหิงสา แต่กลับมีความพยายามก่อเหตุในพื้นที่การชุมนุม จนมีผู้ได้รับบาดเจ็บกว่า 700 คน และเสียชีวิตเกือบ 20 คน จึงขอประณามว่าเป็นการกระทำที่ไร้มนุษยธรรม และไม่ปรากฏว่ามีการติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดีจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ ขณะที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ไม่ออกมาแสดงความรับผิดชอบหรือสั่งการให้ตำรวจดำเนินการเป็นคดีพิเศษ โดยเฉพาะเหตุการณ์คนร้ายกราดยิงผู้ชุมนุม กปปส.จังหวัดตราด และ เหตุคนร้ายลอบยิงระเบิดบริเวณห้างบิ๊กซี ราชดำริ ส่งผลให้มีเด็กบริสุทธิต้องเสียชีวิต ทั้งนี้ยังปฏิเสธว่า กปปส.ไม่เคยขอให้ทหารออกมาปฏิวัติ ตามที่ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ผู้อำนวยการศูนย์รักษาความสงบ (ศรส.) ตามที่กล่าวอ้าง
นายสุเทพ กล่าวชื่นชม พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงห์แก้ว ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ที่ไม่ได้ปฏิบัติตามคำสั่งของ ศรส.โดยยึดคำสั่งของศาลแพ่งที่ได้คุมครองและห้ามสลายการชุมนุม ดังนั้นจึงขอโทษกับสิ่งที่ผ่านมา โดยหลังจากนี้ กปปส.ยินดีให้เจ้าหน้าที่ตำรวจแต่งเครื่องแบบเข้าไปตรวจสอบอาวุธในทุกเวทีการชุมนุม
นายสุเทพ ได้อ่านจดหมายถึงผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ใจความว่า ขอให้ตั้งคณะทำงานพิเศษเรียกร้องให้ติดตามคนร้ายที่ก่อเหตุบริเวณเวที กปปส.จังหวัดตราด และ หน้าห้างบิ๊กซี ราชดำริ ทำให้มีเด็กผู้บริสุทธิ์เสียชีวิต 3 คน ซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับการชุมนุม มาดำเนินคดี ทั้งนี้นายสุเทพ ได้มอบหมายให้แกนนำ กปปส. อาทิ นายชัยวุฒิ บรรณวัฒน์ อดีต ส.ส.ตาก นายสกลธี ภัททิยกุล นางทยา ทีปสุวรรณ และ น.ส.จิตภัสร์ กฤดากร กปปส. นำหนังสือพร้อมดอกไม้ไปมอบให้ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ผ่าน พล.ต.อ.อุดม รักษ์ศีลธรรม ทึ่ปรึกษา สบ.10 เป็นผู้แทนรับหนังสือ
ต่อมาเวลา 12.30 น.พล.ต.อ.อดุลย์ ได้ลงมาพบและรับช่อดอกไม้จากตัวแทน กปปส.ด้วยตัวเอง พร้อมยืนยันว่า ทาง สตช ไม่นิ่งนอนใจ และจัดทีมคลี่คลายคดีเฉพาะกิจซึ่งมีมอบพล.ต.อ เอก อังสนานนท์ รองผบ.ตร รับผิดชอบทุกคดีพร้อมฝากไปยังกลุ่มผู้ชุมนุมประสานงานในทุกเวทีอำนวจความสะดวกให้กับเจ้าหน้าที่ เนื่องจากที่ผ่านมาเมื่อมีเหตุการเกิดขึ้นตำรวจเดินทางเข้าพื้นที่ลำบากจึงอยากขอความร่วมมือ ทั้งนี้. หากเกิดเหตุและเจ้าหน้าที่เข้าไปดำเนินการได้ง่าย จะทำให้การหาตัวคนร้ายและการเก็บหลักฐานรวดเร็วมากยิ่งขึ้น พร้อมกันนี้จะมีการเข้มงวดในการตั้งด่านร่วมกับเจ้าหน้าที่ทหาร เพื่อป้องกันเหตุรุนแรงที่อาจเกิดขึ้น
ขณะที่ นายสุเทพ ได้ขึ้นปราศรัยขอบคุณผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติและเจ้าหน้าที่ตำรวจที่รับเรื่องร้องเรียนในวันนี้ และรับปากว่าจะคัดเลือกเจ้าหน้าที่ตำรวจที่มีความรู้ความสามารถมาดูแลคดีดังกล่าว พร้อมยืนยันว่าตนจะไม่หนีไปไหน แต่ขอเวลาต่อสู้เพื่อทวงคืนหลักประชาธิปัตย์เคียงข้างพี่น้องประชาชนก่อน
อย่างไรก็ตาม กลุ่มมวลชนได้นำดอกไม้มามอบให้กับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจบริเวณด้านหน้าประตูสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อขอบคุณและเป็นกำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่ต่อไป
มวลชนคปท. นำโดย ทนายนิติธร ล้ำเหลือ ได้เคลื่อนมวลชนประมาณ 300 คน ไปสมทบกปปส.ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เรียกร้องให้ตำรวจให้ความเป็นธรรมกับผู้บริสุทธิ์ที่เสียชีวิต พร้อมเร่งจับตัวคนร้ายให้ได้
บรรยากาศกลุ่มมวลชนกปปส.ที่หน้าสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
กปปส.ยื่นหนังสือถึง พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงห์แก้ว ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.)
