ตำรวจปราบจลาจลรุกคืบเข้าไปยังจตุรัสกลางกรุงเคียฟ จุดปักหลักชุมนุมของกลุ่มผู้ประท้วงฝ่ายต่อต้านรัฐบาลในช่วงค่ำคืนวันอังคาร(18) จนเกิดการตอบโต้กันอีกระลอก ไม่กี่ชั่วโมงตามหลังการปะทะดุเดือดช่วงกลางวัน คร่าชีวิตอย่างน้อย 11 ศพ จนกลายเป็นวันแห่งความรุนแรงนองเลือดเลวร้ายที่สุดนับตั้งแต่มีการชุมนุมต่อต้านประธานาธิบดีวิกตอร์ ยานูโควิช เมื่อ 12 สัปดาห์ก่อน
บริเวณจตุรัสเอกราชถูกแปรเปลี่ยนเป็นเขตสงคราม เมื่อตำรวจเคลื่อนพลรุกคืบไปข้างหน้าอย่างช้าๆฝ่าแนวกั้นหมายยึดพื้นที่คืน ไม่นานหลังจากกองกำลังด้านความมั่นคงขีดเส้นตายให้ผู้ชุมนุมหยุดก่อความวุ่นวาย ไม่อย่างนั้นจะต้องเผชิญกับมาตรการที่หนักหน่วง อย่างไรก็ตามระหว่างนั้นผู้ประท้วงก็ตอบโต้ด้วยระเบิดเพลิง พลุไฟและก้อนหิน รวมทั้งยังจุดไฟเผายางรถยนต์ ส่งกลุ่มควันหนาทึบลอยขึ้นสู่ท้องฟ้ายามค่ำคืน
รายงานข่าวทางสถานีโทรทัศน์เผยให้เห็นภาพตำรวจกำลังปาระเบิดแรงเข้าใส่ผู้ชุมนุมที่อยู่ห่างออกไป โดยมีเตนท์ ยางรถยนต์และกองไม้ กั้นกลางระหว่างสองฝ่าย ขณะเดียวกันก็พบเห็นเปลวเพลิงกำลังลุกไหม้เตนท์ของผู้ประท้วงได้รับความเสียหายราว 1 ใน 4
บริเวณจตุรัสเอกราชถูกแปรเปลี่ยนเป็นเขตสงคราม เมื่อตำรวจเคลื่อนพลรุกคืบไปข้างหน้าอย่างช้าๆฝ่าแนวกั้นหมายยึดพื้นที่คืน ไม่นานหลังจากกองกำลังด้านความมั่นคงขีดเส้นตายให้ผู้ชุมนุมหยุดก่อความวุ่นวาย ไม่อย่างนั้นจะต้องเผชิญกับมาตรการที่หนักหน่วง อย่างไรก็ตามระหว่างนั้นผู้ประท้วงก็ตอบโต้ด้วยระเบิดเพลิง พลุไฟและก้อนหิน รวมทั้งยังจุดไฟเผายางรถยนต์ ส่งกลุ่มควันหนาทึบลอยขึ้นสู่ท้องฟ้ายามค่ำคืน
รายงานข่าวทางสถานีโทรทัศน์เผยให้เห็นภาพตำรวจกำลังปาระเบิดแรงเข้าใส่ผู้ชุมนุมที่อยู่ห่างออกไป โดยมีเตนท์ ยางรถยนต์และกองไม้ กั้นกลางระหว่างสองฝ่าย ขณะเดียวกันก็พบเห็นเปลวเพลิงกำลังลุกไหม้เตนท์ของผู้ประท้วงได้รับความเสียหายราว 1 ใน 4