นายพงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล รักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า บริษัท ปตท.และบริษัทในเครือ ได้ดำเนินการแจ้งความ และเตรียมฟ้องร้องทางแพ่งและอาญากับแกนนำและผู้ชุมนุมที่ปิดล้อมพื้นที่ จนเป็นเหตุทำให้พนักงานที่ปฎิบัติงานในอาคาร ปตท. และอาคารเอ็นเนอร์ยี่คอมเพล็กซ์ หรือ เอ็นโก้ กว่า 1,000 คน ไม่สามารถเข้าไปทำงานได้ โดยมีหลักฐานชัดเจนชัดเจน ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการประเมินมูลค่า เพราะมีความเสียหายทางธุรกิจ และความเสียหายที่ต้องไปเช่าอาคารอื่นเพื่อปฏิบัติงานแทน
นอกจากนี้ ร้านค้าย่อยโดยรอบยังขาดรายได้ตั้งแต่เดือนธันวาคมที่ผ่านมา จนผู้ค้าต้องไปยื่นเรื่องขอความเป็นธรรมต่อศูนย์รักษาความสงบ (ศรส.)
นายไพรินทร์ ชูโชติถาวร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. กล่าวว่า ผู้เช่าอาคารเอ็นโก้ยังต้องเสียค่าเช่าตามสัญญาที่ตกลงไว้ เช่น กระทรวงพลังงานต้องจ่ายค่าเช่าให้เอ็นโก้ปีละ 50-60 ล้านบาท
ขณะที่ผู้ค้าและเครือ ปตท. ต้องจ่ายค่าเช่าที่ดินให้กับการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) ในอัตราปกติเช่นกัน จึงเรียกร้องให้ผู้ชุมนุมเปิดทางให้พนักงานเข้าไปทำงาน
นอกจากนี้ ร้านค้าย่อยโดยรอบยังขาดรายได้ตั้งแต่เดือนธันวาคมที่ผ่านมา จนผู้ค้าต้องไปยื่นเรื่องขอความเป็นธรรมต่อศูนย์รักษาความสงบ (ศรส.)
นายไพรินทร์ ชูโชติถาวร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. กล่าวว่า ผู้เช่าอาคารเอ็นโก้ยังต้องเสียค่าเช่าตามสัญญาที่ตกลงไว้ เช่น กระทรวงพลังงานต้องจ่ายค่าเช่าให้เอ็นโก้ปีละ 50-60 ล้านบาท
ขณะที่ผู้ค้าและเครือ ปตท. ต้องจ่ายค่าเช่าที่ดินให้กับการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) ในอัตราปกติเช่นกัน จึงเรียกร้องให้ผู้ชุมนุมเปิดทางให้พนักงานเข้าไปทำงาน
