จากกรณีที่เว็บไซต์หนังสือพิมพ์เทเลกราฟ ของอังกฤษ รายงานว่า โครงการรับจำนำข้าวของไทยสร้างความร่ำรวยให้กับผู้ที่ลักลอบค้าข้าวในเมียนมาร์ ที่ลักลอบนำเข้ามาขายในประเทศไทย ซึ่งได้ราคาสูงกว่า ข้าว 50 กิโลกรัม ในเมียวดีขายได้ 850 บาท แต่เมื่อมาขายในไทยราคาจะเพิ่มขึ้นเป็น 1,600 บาท ซึ่งเป็นผลมาจากโครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาลไทยที่จะช่วยเหลือชาวนา ที่เป็นฐานเสียงหลัก โดยจะมีการลักลอบเข้ามาทางเรือผ่าน อ.แม่สอด จ.ตาก ทุกวัน ล่าสุด นายพงศ์เทพ บัวทรัพย์ นายด่านศุลกากรแม่สอด ที่ดูแลเรื่องการนำเข้าข้าวจากเมียนมาร์ ออกมาปฏิเสธกรณีดังกล่าว โดยระบุว่า เป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ เพราะการจะนำข้าวจากเมียนมาร์เข้าประเทศนั้น ไม่ใช่เรื่องง่าย ต้องผ่านวิธีการหลายขั้นตอน รวมทั้งยังมีอีกหลายหน่วยงานดูแล
นอกจากนี้ พื้นที่ 5 อำเภอชายแดนติดเมียนมาร์ ระยะทางกว่า 500 กิโลเมตร ชาวเมียนมาร์ไม่นิยมปลูกข้าว รวมทั้งไม่มีแหล่งน้ำพื้นที่ภูเขา จึงหันมาปลูกมันสำปะหลัง อ้อย หรือยางพาราแทน ส่วนข้าวนั้น ปลูกเพื่อบริโภคกันเอง เป็นข้าวคุณภาพต่ำ และปีที่ผ่านมามีพ่อค้านำเข้าปลายข้าว 100 เปอร์เซ็นต์ ในแบบ WTO รวม 6,310 ตัน มูลค่า 34,978,257 บาท โดยเสียภาษีศุลกากรอย่างถูกต้อง
นายพงศ์เทพ กล่าวด้วยว่า ข้าวที่นำเข้ามาจากเมียนมาร์ ไม่ได้นำมาสวมสิทธิ์จำนำข้าวไทย เนื่องจากเป็นข้าวที่สีเป็นข้าวสารแล้ว รวมทั้งข้าวเมียนมาร์ที่เห็นนำเข้าตามแนวชายแดนนั้น จะเป็นข้าวเมล็ดสั้น ที่ส่วนใหญ่จะนำมาทำเป็นแป้งขนมจีน และแป้งข้าวเจ้าเท่านั้น
นอกจากนี้ พื้นที่ 5 อำเภอชายแดนติดเมียนมาร์ ระยะทางกว่า 500 กิโลเมตร ชาวเมียนมาร์ไม่นิยมปลูกข้าว รวมทั้งไม่มีแหล่งน้ำพื้นที่ภูเขา จึงหันมาปลูกมันสำปะหลัง อ้อย หรือยางพาราแทน ส่วนข้าวนั้น ปลูกเพื่อบริโภคกันเอง เป็นข้าวคุณภาพต่ำ และปีที่ผ่านมามีพ่อค้านำเข้าปลายข้าว 100 เปอร์เซ็นต์ ในแบบ WTO รวม 6,310 ตัน มูลค่า 34,978,257 บาท โดยเสียภาษีศุลกากรอย่างถูกต้อง
นายพงศ์เทพ กล่าวด้วยว่า ข้าวที่นำเข้ามาจากเมียนมาร์ ไม่ได้นำมาสวมสิทธิ์จำนำข้าวไทย เนื่องจากเป็นข้าวที่สีเป็นข้าวสารแล้ว รวมทั้งข้าวเมียนมาร์ที่เห็นนำเข้าตามแนวชายแดนนั้น จะเป็นข้าวเมล็ดสั้น ที่ส่วนใหญ่จะนำมาทำเป็นแป้งขนมจีน และแป้งข้าวเจ้าเท่านั้น