การชุมนุมเวทีแยกปทุมวันตลอดช่วงเช้าวันนี้ (5 ก.พ. 57) เป็นไปด้วยความคึกคัก ผู้ร่วมชุมนุมต่างเก็บสัมภาระ และร่วมทำความสะอาดครั้งใหญ่รอบพื้นที่่การชุมนุม ซึ่งเป็นครั้งที่ 2 ตั้งแต่มาชุมนุมที่แยกปทุมวัน โดยมีรถบรรทุกน้ำ และเจ้าหน้าที่ทำความสะอาดของกรุงเทพมหานครเข้าร่วม
ขณะที่บนเวทีปราศรัยมีการติดตั้งลำโพงขยายเสียงเพิ่มเติม มีการร้องเพลง การจัดรายการสดออกอากาศทางช่องบลูสกาย และขึ้นปราศรัยของแกนนำย่อย และตัวแทนนิสิต นักศึกษา โจมตีการบริหารประเทศของรัฐบาล
นายเอกนัฎ พร้อมพันธุ์ โฆษก กปปส.เปิดเผยว่า จากที่รัฐบาล และศูนย์รักษาความสงบ หรือ ศรส.พยายามใช้สื่อต่างประเทศกดดันการชุมนุม แต่ขณะนี้ต่างประเทศเข้าใจการชุมนุมมากขึ้น และมีการเสนอข่าวการทุจริตของรัฐบาล โดยเฉพาะโครงการจำนำข้าว และองค์กรระหว่างประเทศต่างๆ โดยเฉพาะองค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) เข้าใจการดำเนินการของ กปปส.และเรียกร้องให้เคารพการชุมนุมอย่างสันติ ซึ่ง กปปส.กังวลต่อการทำงานของ ศรส.ที่อาจกระทบความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ทั้งจะทำหนังสือชี้แจงยูเอ็น การกระทำของแกนนำ กปปส.เห็นว่าควรรวบรวมหลักฐานขอหมายจับจากศาล และควรหาผู้ก่อเหตุความรุนแรงมาลงโทษ และแถลงต่อองค์กรระหว่างประเทศมากกว่า และขณะนี้ ศรส.และรัฐบาลได้แสดงท่าทีไม่เหมาะสม อาจกระทบกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ทั้งการประกาศพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน ที่กระทบการท่องเที่ยว การติดประกาศของกองบัญชาการตำรวจตรวจคนเข้าเมือง เตือนชาวต่างชาติที่ขึ้นเวทีปราศรัย อาจถูกเพิกถอนสิทธิ์การพักอาศัยในประเทศ ซึ่งถือเป็นการข่มขู่ และล่าสุดประกาศเนรเทศนายสาธิต เซกัล นักธุรกิจชาวอินเดีย ซึ่งไม่เหมาะสม อาจกระทบความรู้สึกนักท่องเที่ยว นักลงทุน ที่มาทำธุรกิจในไทย โดยขอเรียนถาม ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน และ ผอ.ศรส.ว่า นายสาธิต ทำผิดอะไร และ ศรส.มีอำนาจในการเนรเทศหรือไม่ และขอให้ ร.ต.อ.เฉลิม ชี้แจงกรณีการให้สัมภาษณ์เหยียดชนชาติที่เป็นข่าวด้วย หาก ศรส.และรัฐบาลยังไม่หยุดพฤติกรรมนี้ หากเกิดผลกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ นายกรัฐมนตรี ต้องรับผิดชอบ
ขณะที่บนเวทีปราศรัยมีการติดตั้งลำโพงขยายเสียงเพิ่มเติม มีการร้องเพลง การจัดรายการสดออกอากาศทางช่องบลูสกาย และขึ้นปราศรัยของแกนนำย่อย และตัวแทนนิสิต นักศึกษา โจมตีการบริหารประเทศของรัฐบาล
นายเอกนัฎ พร้อมพันธุ์ โฆษก กปปส.เปิดเผยว่า จากที่รัฐบาล และศูนย์รักษาความสงบ หรือ ศรส.พยายามใช้สื่อต่างประเทศกดดันการชุมนุม แต่ขณะนี้ต่างประเทศเข้าใจการชุมนุมมากขึ้น และมีการเสนอข่าวการทุจริตของรัฐบาล โดยเฉพาะโครงการจำนำข้าว และองค์กรระหว่างประเทศต่างๆ โดยเฉพาะองค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) เข้าใจการดำเนินการของ กปปส.และเรียกร้องให้เคารพการชุมนุมอย่างสันติ ซึ่ง กปปส.กังวลต่อการทำงานของ ศรส.ที่อาจกระทบความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ทั้งจะทำหนังสือชี้แจงยูเอ็น การกระทำของแกนนำ กปปส.เห็นว่าควรรวบรวมหลักฐานขอหมายจับจากศาล และควรหาผู้ก่อเหตุความรุนแรงมาลงโทษ และแถลงต่อองค์กรระหว่างประเทศมากกว่า และขณะนี้ ศรส.และรัฐบาลได้แสดงท่าทีไม่เหมาะสม อาจกระทบกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ทั้งการประกาศพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน ที่กระทบการท่องเที่ยว การติดประกาศของกองบัญชาการตำรวจตรวจคนเข้าเมือง เตือนชาวต่างชาติที่ขึ้นเวทีปราศรัย อาจถูกเพิกถอนสิทธิ์การพักอาศัยในประเทศ ซึ่งถือเป็นการข่มขู่ และล่าสุดประกาศเนรเทศนายสาธิต เซกัล นักธุรกิจชาวอินเดีย ซึ่งไม่เหมาะสม อาจกระทบความรู้สึกนักท่องเที่ยว นักลงทุน ที่มาทำธุรกิจในไทย โดยขอเรียนถาม ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน และ ผอ.ศรส.ว่า นายสาธิต ทำผิดอะไร และ ศรส.มีอำนาจในการเนรเทศหรือไม่ และขอให้ ร.ต.อ.เฉลิม ชี้แจงกรณีการให้สัมภาษณ์เหยียดชนชาติที่เป็นข่าวด้วย หาก ศรส.และรัฐบาลยังไม่หยุดพฤติกรรมนี้ หากเกิดผลกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ นายกรัฐมนตรี ต้องรับผิดชอบ
