พ.อ.วินธัย สุวารี รองโฆษกกองทัพบก กล่าวถึงกรณีที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการกลุ่มคณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทย ให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์ อันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข (กปปส.) เรียกร้องให้ทหารออกไปดูแลประชาชนที่ออกมาร่วมชุมนุม ว่า การออกไปดูแลประชาชนหรือปฏิบัติงานใดๆ ของทหารจำเป็นต้องมีกฎหมายรับรอง ซึ่งขณะนี้ พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน ได้มอบให้ศูนย์รักษาความสงบ (ศรส.) โดยมี พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ รับผิดชอบในส่วนของการใช้กำลัง ขอให้ประชาชนได้เข้าใจ ทหารจำเป็นต้องปฏิบัติงานภายใต้กรอบกฎหมาย โดยเฉพาะต้องมีกฎหมายที่คุ้มครองเจ้าหน้าที่ และมีผู้รับผิดชอบต่อการสั่งการใดๆ ชัดเจน ทั้งนี้ เพื่อให้เกิดความปลอดภัยกับกำลังพลที่ออกปฏิบัติงาน ซึ่งอาจมีโอกาสพบเจอกับเหตุการณ์ความรุนแรงเช่นเดียวกัน
ทั้งนี้ ปัจจุบันได้ปรับการวางกำลังทหารให้มากขึ้น ให้ครอบคลุมพื้นที่ตามประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ทั้งหมด โดยจะมีการตั้งด่าน ทั้งทหารและตำรวจ รวมถึงกำลังเคลื่อนที่เร็ว เพื่อแก้ปัญหาสถานการณ์ที่มีความรุนแรงโดยทันที อีกทั้งผู้บัญชาการทหารบก ได้ปรึกษากับผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ให้ติดตามจับกุมดำเนินคดีคนร้ายทุกรายให้ได้โดยเร็ว ซึ่งทราบว่ามีความคืบหน้าพอสมควร
ส่วนการชุมนุมในพื้นที่ประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ไม่ว่าจะเป็นการชุมนุมของกลุ่มใด ก็ถือว่าผิดกฎหมายด้วยกันทั้งสิ้น ไม่ใช่ว่ามีฝ่ายหนึ่งทำผิด อีกฝ่ายจะมาใช้มาตรการนอกกฎหมายมาดำเนินการ เจ้าหน้าที่จะปล่อยให้เกิดเหตุการณ์อย่างนั้นไม่ได้ โดยเฉพาะการเป็นผู้บังคับใช้กฎหมาย ต้องเป็นไปอย่างเที่ยงธรรมต่อทุกฝ่าย และจะพยายามนำผู้กระทำผิดมาเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมให้ได้อย่างปลอดภัย อยากขอให้การชุมนุมของทุกกลุ่มเป็นไปโดยสันติและสงบ อย่าใช้ความรุนแรงต่อกัน ไม่เช่นนั้นปัญหาจะยิ่งลุกลามบานปลาย ยากต่อการแก้ไข นำมาซึ่งความเสียหายที่รุนแรงต่อประเทศชาติ
ทั้งนี้ ปัจจุบันได้ปรับการวางกำลังทหารให้มากขึ้น ให้ครอบคลุมพื้นที่ตามประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ทั้งหมด โดยจะมีการตั้งด่าน ทั้งทหารและตำรวจ รวมถึงกำลังเคลื่อนที่เร็ว เพื่อแก้ปัญหาสถานการณ์ที่มีความรุนแรงโดยทันที อีกทั้งผู้บัญชาการทหารบก ได้ปรึกษากับผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ให้ติดตามจับกุมดำเนินคดีคนร้ายทุกรายให้ได้โดยเร็ว ซึ่งทราบว่ามีความคืบหน้าพอสมควร
ส่วนการชุมนุมในพื้นที่ประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ไม่ว่าจะเป็นการชุมนุมของกลุ่มใด ก็ถือว่าผิดกฎหมายด้วยกันทั้งสิ้น ไม่ใช่ว่ามีฝ่ายหนึ่งทำผิด อีกฝ่ายจะมาใช้มาตรการนอกกฎหมายมาดำเนินการ เจ้าหน้าที่จะปล่อยให้เกิดเหตุการณ์อย่างนั้นไม่ได้ โดยเฉพาะการเป็นผู้บังคับใช้กฎหมาย ต้องเป็นไปอย่างเที่ยงธรรมต่อทุกฝ่าย และจะพยายามนำผู้กระทำผิดมาเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมให้ได้อย่างปลอดภัย อยากขอให้การชุมนุมของทุกกลุ่มเป็นไปโดยสันติและสงบ อย่าใช้ความรุนแรงต่อกัน ไม่เช่นนั้นปัญหาจะยิ่งลุกลามบานปลาย ยากต่อการแก้ไข นำมาซึ่งความเสียหายที่รุนแรงต่อประเทศชาติ