นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศ ในฐานะผู้กำกับดูแลศูนย์รักษาความสงบ (ศรส.) แถลงผ่านสถานีโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย (ทีวีพูล) ระบุให้ประชาชนใช้ชีวิตตามปกติภายใต้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เว้นแต่ผู้ชุมนุมประท้วงที่ทำผิดกฎหมายเท่านั้น โดย ศรส.จะประสานให้ผู้ชุมนุมออกจากสถานที่ราชการ โดยจะไม่มีการสลายการชุมนุมเหมือนเมื่อปี 2553 ในสมัยรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ โดยจะใช้หลักสากลที่เป็นลำดับขั้นตอน ส่วนแกนนำ จะใช้วิธีเรียกให้เข้ามาชี้แจง เพื่อขอให้ยุติการกระทำใด ที่สร้างความเสียหายให้กับประเทศ
นอกจากนี้ จะเรียกเจ้าของโรงแรม หอหัก บ้านเช่า ที่ให้สถานที่พักพิงหรือหลบซ่อนกับผู้ชุมนุมที่มีหมายจับ ให้เข้ามาชี้แจงต่อ ศรส.
นายสุรพงษ์ กล่าวอีกว่า ส่วนผู้ใดที่ขัดขวางการเลือกตั้ง จะมีความผิดตาม พ.ร.บ.เลือกตั้ง มีโทษจำคุก 1-5 ปี ปรับ 20,000 - 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และถูกเพิกถอนสิทธิ์เลือกตั้ง 5 ปี มีโทษจำคุก 2 ปี ปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับตามความผิดของ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน
นอกจากนี้ นายสุรพงษ์ ยังตอบโต้กรณีที่หลายฝ่ายกล่าวหาว่า รัฐบาลไม่มีอำนาจประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เนื่องจากเป็นรัฐบาลรักษาการ ขอยืนยันว่า รัฐบาลไม่ได้ใช้อำนาจตามอำเภอใจ แต่กระทำเพื่อรักษาอำนวจของปวงชนชาวไทย
นอกจากนี้ จะเรียกเจ้าของโรงแรม หอหัก บ้านเช่า ที่ให้สถานที่พักพิงหรือหลบซ่อนกับผู้ชุมนุมที่มีหมายจับ ให้เข้ามาชี้แจงต่อ ศรส.
นายสุรพงษ์ กล่าวอีกว่า ส่วนผู้ใดที่ขัดขวางการเลือกตั้ง จะมีความผิดตาม พ.ร.บ.เลือกตั้ง มีโทษจำคุก 1-5 ปี ปรับ 20,000 - 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และถูกเพิกถอนสิทธิ์เลือกตั้ง 5 ปี มีโทษจำคุก 2 ปี ปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับตามความผิดของ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน
นอกจากนี้ นายสุรพงษ์ ยังตอบโต้กรณีที่หลายฝ่ายกล่าวหาว่า รัฐบาลไม่มีอำนาจประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เนื่องจากเป็นรัฐบาลรักษาการ ขอยืนยันว่า รัฐบาลไม่ได้ใช้อำนาจตามอำเภอใจ แต่กระทำเพื่อรักษาอำนวจของปวงชนชาวไทย