น.พ.อนุชา เศรษฐเสถียร เลขาธิการสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ (สพฉ.) กล่าวว่า สพฉ.ได้ออกแนวปฏิบัติสำหรับบุคลากรทางการแพทย์หากต้องเผชิญเหตุระเบิด เพื่อความปลอดภัยให้ตั้งสติและหมอบลงกับพื้นและทำตัวให้ต่ำที่สุด แล้วคลานเข้าไปอยู่ในที่กำบังอย่างรวดเร็ว ไม่เข้าไปช่วยผู้ประสบเหตุจนกว่าผู้บัญชาการเหตุการณ์ หรือนักทำลายวัตถุระเบิดจะแจ้งว่าปลอดภัยแล้ว เมื่อเหตุการณ์ปลอดภัยแล้วให้ทีมกู้ภัยเข้าช่วยเหลือ ใช้สัญลักษณ์สีคัดแยกผู้บาดเจ็บ โดยผู้บาดเจ็บไม่มากให้อยู่ในโซนสีเขียว แต่หากชีพจรเต้นเร็ว 120 ครั้งต่อนาทีขึ้นไป เป็นผู้บาดเจ็บในโซนสีแดง และผู้บาดเจ็บที่หายใจ 10-29 ครั้งต่อนาที หรือชีพจรเต้นน้อยกว่า 120 ครั้งต่อนาที ให้เป็นผู้บาดเจ็บในโซนสีเหลือง จากนั้นรับนำส่งโรงพยาบาลตามอาการฉุกเฉิน
พร้อมแนะนำประชาชนหากพบวัตถุต้องสงสัยห้ามแตะต้องหรือว่าเคลื่อนย้ายวัตถุต้องสงสัยโดยเด็ดขาด และรีบอพยพผู้คนออกจากพื้นที่ทันที อย่าตื่นตระหนก หรือหากพบวัตถุต้องสงสัยหรือเกิดประกายไฟให้หาที่กำบัง
ส่วนผู้ที่ติดอยู่ในอาคารให้ใช้ผ้าชุบน้ำอุดช่องประตูเพื่อป้องกันแก๊สพิษ โดยหลบอยู่เหนือลม ปิดเครื่องปรับอากาศและเสื้อผ้าให้มิดชิดเพื่อป้องกันอันตรายที่จะเกิดขึ้น และหากเป็นไปได้ให้นำยางรถยนต์ไปล้อมวัตถุต้องสงสัยเอาไว้ด้วย
พร้อมแนะนำประชาชนหากพบวัตถุต้องสงสัยห้ามแตะต้องหรือว่าเคลื่อนย้ายวัตถุต้องสงสัยโดยเด็ดขาด และรีบอพยพผู้คนออกจากพื้นที่ทันที อย่าตื่นตระหนก หรือหากพบวัตถุต้องสงสัยหรือเกิดประกายไฟให้หาที่กำบัง
ส่วนผู้ที่ติดอยู่ในอาคารให้ใช้ผ้าชุบน้ำอุดช่องประตูเพื่อป้องกันแก๊สพิษ โดยหลบอยู่เหนือลม ปิดเครื่องปรับอากาศและเสื้อผ้าให้มิดชิดเพื่อป้องกันอันตรายที่จะเกิดขึ้น และหากเป็นไปได้ให้นำยางรถยนต์ไปล้อมวัตถุต้องสงสัยเอาไว้ด้วย