xs
xsm
sm
md
lg

ศอ.รส.แถลงยิงแก๊สน้ำตาสกัดผู้ชุมนุม กล่าวหาผู้ชุมนุมใช้ผู้หญิง-คนแก่เป็นโล่มนุษย์

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

เมื่อเวลา 12.00 น. พล.ต.ต.ปิยะ อุทาโย โฆษก ศอ.รส.แถลงถึงสถานการณ์การชุมนุม ระบุว่า เมื่อเวลา 11.25 น. ศอ.รส. โดย พล.ต.อ.เอก เอกอังสนานนท์ พล.ต.อ.วรพงษ์ ชิวปรีชา รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้ติดต่อประสานงานอย่างใกล้ชิดกับอธิการบดีมหาวิทยาลัยรามคำแหง เพื่อดำเนินการจัดรถบัสและชุดคุ้มกันเข้าไปในมหาวิทยาลัยรามคำแหง เพื่อรับน้องๆ นักศึกษาที่ยังตกค้างอยู่ในมหาวิทยาลัย หลังจากที่ได้มีการนัดหมายเวลากันเรียบร้อยแล้ว ก็กำลังจะเคลื่อนขบวนเข้าไป ปรากฏว่ามีกลุ่มคน ไม่ทราบว่าเป็นฝ่ายใด เผายางรถยนต์ขวางทางอยู่ เป็นเหตุให้เจ้าหน้าที่ยังเข้าไปสู่พื้นที่ภายในไม่ได้
อย่างไรก็ตาม ก็ยังได้มีการประสานงานทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ และอธิการบดีมหาวิทยาลัยรามคำแหง ก็จะได้เข้าไปประสานงานกับกลุ่มที่ดำเนินการเผายาง เพื่อเจรจาขอเปิดทาง จะได้สามารถเข้าไปรับน้องๆ นักศึกาษารามคำแหงให้กลับมาได้อย่างปลอดภัย
ขออนุญาตรายงานเพิ่มเติม เมื่อคืนนี้ เวลาประมาณ 23.00-24.00 น. ชุดควบคุมฝูงชนได้มีการจับกุมบุคคลที่พกพาอาวุธปืนเข้าไปในบริเวณสนามกีฬา บริเวณหน้ามหาวิทยาลัยรามคำแหง ได้ 2 รายด้วยกัน เป็นอาวุธปืนพกสั้นกึ่งออโตเมติก ขนาด 9 มม. พร้อมเครื่องกระสุน และอาวุธปืนขนาด .22 ทั้งสองรายนั้นโดนแจ้งข้อหาการมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดี
สำหรับสถานการณ์โดยทั่วไป ในการดาวกระจายของกลุ่มผู้ชุมนุม ขณะนี้มีสถานการณ์ที่น่าเป็นห่วงอยู่ 2 จุด ณ บริเวณสะพานชมัยมรุเชฐ แยกพาณิชยการ กับระหว่างพิษณุโลกกับถนนพระราม 5 กับจุดที่สอง คือ แยก พล 1 รักษาพระองค์ ถนนศรีอยุธยา ตัดกับถนนราชสีมา ทั้งสองจุดนั้นกลุ่มผู้ชุมนุมมีจำนวนประมาณจุดละ 3,000 คน ได้ใช้คีมเหล็กตัดลวดหนามที่วางกั้นแนว รวมทั้งได้เข้าไปทำลายแนวแท่นปูนที่กั้นเป็นแนวป้องกันการปะทะระหว่างเจ้าหน้าที่ตำรวจ กับกลุ่มผู้ชุมนุม ขณะที่บนรถแกนนำยังยุยงปลุกปั่นให้กับกลุ่มผู้ชุมนุมเข้าไปทำลายสิ่งกีดขวาง และปะทะเจ้าหน้าที่อยู่ตลอดเวลา ด้วยเหตุผลและความจำเป็นดังกล่าว บริเวณที่แยกชมัยมรุเชฐ เจ้าหน้าที่ได้แจ้งเตือนตามลำดับขั้นตอน ทั้งการเจรจาพูดคุย การประสานงานกับแกนนำ และให้กลุ่มมวลชนได้รับทราบว่าพื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่ที่ประกาศห้ามตาม พ.ร.บ.ความมั่นคง เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงแก้ไขสถานการณ์ด้วยการโยนแก๊สน้ำตาไปจำนวน 1 นัดก่อน ณ บริเวณพื้น เพื่อให้กลุ่มผู้ชุมนุมได้ล่าถอยออกไป ขณะนี้กลุ่มผู้ชุมนุมก็ได้ล่าถอยออกไป และอยู่ระหว่างคุมสถานการณ์
ส่วนที่แยก พล 1 นั้น มีการดำเนินการลักษณะเดียวกัน กลุ่มผู้ชุมนุมพยายามจะเข้าไปปะทะกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งรักษาการณ์อยู่บริเวณดังกล่าว ได้มีการเจรจาและร้องขอให้ออกจากพื้นที่ดังกล่าว แต่ก็ยังมีการฝ่าฝืน จึงใช้แก๊สน้ำตาโยนเข้าไปในบริเวณใกล้เคียงดังกล่าว ขณะนี้กลุ่มผู้ชุมนุมล่าถอย และล่าสุดขณะนี้กลุ่มผู้ชุมนุมได้ปาระเบิดปิงปองจำนวน 3 นัด เข้าไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ขณะนี้ตำรวจยังควบคุมสถานการณ์อยู่
ส่วนจุดชุมนุมอื่น ไม่ว่าที่สะพานมัฆวานฯ หน้าสำนักงานตำรวจแห่งชาติ หรือจุดแยกอื่นๆ นั้น ยังเป็นการไปกดดันและมีการปราศรัยหน้าแนว ที่น่าเป็นห่วงอีกจุดหนึ่ง ซึ่งถือว่าเป็นการกระทำผิดกฎหมายอย่างชัดเจน และเป็นการเข้าไปคุกคามสื่อมวลชน นั่นคือนายสกลธี ภัททิยกุล ได้นำมวลชน พร้อมรถ บุกเข้าไปในสถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส และบังคับให้เจ้าหน้าที่ตัดสัญญาณ และเชื่อมโยงสัญญาณ เพื่อได้ถ่ายทอดการปฏิบัติการของกลุ่มผู้ชุมนุม ขณะนี้ทางนายสถานีกำลังเจรจาอยู่ และยืนยันว่าจะปฏิบัติหน้าที่สื่อมวลชน เสนอข่าวทุกฝ่ายอย่างเป็นกลางที่สุด ขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังจะพยายามเข้าไปควบคุมสถานการณ์
ศอ.รส.จึงยืนยันว่า ในทุกๆ สถานการณ์ที่ได้นำเรียนให้ทราบนั้น ได้พยายามอย่างเต็มที่ที่จะควบคุมสถานการณ์ต่างๆ ให้อยู่ในเงื่อนไขที่ดีที่สุด เน้นการพูดคุยเจรจาต่างๆ ทุกจุดที่ได้กล่าวไปแล้ว ไม่ว่าจุดกระทบกระทั่งกันบริเวณสะพานชมัยมรุเชฐ หรือ ณ บริเวณแยก พล 1 พี่น้องสื่อมวลชนต่างๆ อยู่ ณ พื้นที่ดังกล่าวด้วย คงได้ถ่ายภาพสถานการณ์ต่างๆ ให้ได้เห็น และคงจะช่วยให้ได้รับทราบความจริงต่างๆ
สำหรับแต่ละจุดที่มีมวลชนอยู่ สะพานชมัยมรุเชฐ ขณะนี้มีมวลชนอยู่ประมาณ 1,500 คน บริเวณแยกมัฆวานฯ ประมาณ 600 คน แยกพล 1 ขณะนี้ประมาณ 3,000 คน ที่บริเวณหน้าสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ประมาณ 5,000 คน ส่วนที่กระทรวงแรงงาน กระทรวงพาณิชย์ และที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย จุดละประมาณ 300-400 คน ทุกจุดเจ้าหน้าที่ตำรวจยังควบคุมสถานการณ์ได้อยู่ และยังพูดคุยเจรจากันอยู่ ถึงแม้ว่าขณะนี้แกนนำ ณ แต่ละจุดพยายามปลุกเร้ามวลชนให้ใช้ความรุนแรงตลอดเวลา แต่ ศอ.รส.ยังยืนยันมอบนโยบายให้กับผู้ปฏิบัติหน้าที่ทุกคนอดทนอดกลั้นอย่างถึงที่สุด และขอให้พี่น้องประชาชนรับฟังข่าวสารจากทุกแหล่งข่าว และตรวจสอบความชัดเจนก่อน

ทั้งนี้ มีคำถามมาว่า กรณีที่กลุ่มมวลชนที่อยู่หน้าสำนักงานตำรวจแห่งชาติจะบุกเข้ามาภายในสำนักงานตำรวจแห่งชาตินั้น จะมีการป้องกันอย่างไร ขอเรียนว่า สถานที่ราชการที่สำคัญ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ณ เป็นที่ตั้งของกองกำลัง คือสำนักงานตำรวจแห่งชาติ หรือแม้แต่กองบัญชาการตำรวจนครบาล เรามีการวางแนวทางการป้องกันไว้อย่างเต็ม 100 เปอร์เซ็นต์ แต่ทุกขั้นตอนจะปฏิบัติตามขั้นตอนมาตรฐานสากลในการดูแลพื้นที่ ขอเน้นย้ำกับกลุ่มผู้ชุมนุม การบุกรุกสถานที่ราชการนั้นมีความผิดกฎหมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งการปลุกเร้าให้มวลชนที่เป็นสตรี ที่เป็นผู้สูงอายุ เป็นแนวหน้า และเป็นโล่มนุษย์ให้กับตัวเองในการที่จะบุกเข้าสถานที่ราชการต่างๆ ดังกล่าวนั้น เป็นอันตรายอย่างยิ่ง แต่อย่างไรก็ตาม สำนักงานตำรวจแห่งชาติจะพยายามหลีกเลี่ยงการใช้กำลังที่สุด แต่ทั้งหมดนั้นจะทำงานอย่างเป็นขั้นเป็นตอน ชี้แจงให้พี่น้องประชาชนซึ่งอยู่ ณ ตรงจุดนั้น และน้องๆ สื่อมวลชนให้รับทราบถึงขั้นตอนการปฏิบัติ
ส่วนคำถามต่อมาว่า
กำลังโหลดความคิดเห็น