ดร.ไพโรจน์ วงศ์วิภานนท์ นักวิชาการจากสถาบันวิจัยสังคมและเศรษฐกิจ มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ ระบุว่า สถานการณ์การเมืองกระทบความเชื่อมั่นต่อเศรษฐกิจอย่างปฏิเสธไม่ได้ แต่สิ่งที่รัฐบาลต้องระมัดระวังคือ ต้องไม่ให้เกิดความรุนแรง และต้องวางแผนรับมือกับเหตุการณ์ที่อาจเกิดขึ้น เช่นการยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความร่าง พ.ร.บ.ลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน 2 ล้านล้านบาท
ด้านนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ระบุว่า แม้โครงสร้างการลงทุนขนาดใหญ่ของภาครัฐ ทั้งโครงการบริหารจัดการน้ำ และการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน 2 ล้านล้านบาท ซึ่งเป็นโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจจะยังล่าช้า แต่ยืนยันว่า เกิดขึ้นอย่างแน่นอน พร้อมย้ำถึงการกำกับของกระทรวงการคลัง จะไม่ทำให้หนี้สาธารณะของประเทศนั้นเกินร้อยละ 50 พร้อมกับขอให้ภาคเอกชน และสถาบันการเงินเตรียมความพร้อมออกพันธบัตรสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ เพื่อรองรับการลงทุนขนาดใหญ่ทั้งสองโครงการ
นายกิตติรัตน์ กล่าวถึงความวุ่นวายทางการเมืองขณะนี้ว่า เป็นนิมิตหมายที่ดีในการแสดงออกทางประชาธิปไตยของประชาชน
ด้านนายก้องเกียรติ โอภาสวงการ ประธานกรรมการบริหารบริษัทเอเซียพลัส กล่าวว่า ผลการตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญ ไม่กระทบต่อตลาดทุนมากนัก เพราะการแสดงออกของกลุ่มต่างๆ ยังอยู่ในกรอบของกฎหมาย และไม่มีเหตุรุนแรง แต่หากสถานการณ์ยืดเยื้อ และการบังคับใช้เงินลงทุนโครงการขนาดใหญ่ภาครัฐยังล่าช้า อาจทำให้นักลงทุนต่างประเทศนั้นลดความน่าเชื่อถือ และหันไปลงทุนในประเทศที่เศรษฐกิจฟื้นตัว และหุ้นยังราคาถูก เช่น สหรัฐฯ ยุโรป และจีน
ด้านนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ระบุว่า แม้โครงสร้างการลงทุนขนาดใหญ่ของภาครัฐ ทั้งโครงการบริหารจัดการน้ำ และการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน 2 ล้านล้านบาท ซึ่งเป็นโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจจะยังล่าช้า แต่ยืนยันว่า เกิดขึ้นอย่างแน่นอน พร้อมย้ำถึงการกำกับของกระทรวงการคลัง จะไม่ทำให้หนี้สาธารณะของประเทศนั้นเกินร้อยละ 50 พร้อมกับขอให้ภาคเอกชน และสถาบันการเงินเตรียมความพร้อมออกพันธบัตรสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ เพื่อรองรับการลงทุนขนาดใหญ่ทั้งสองโครงการ
นายกิตติรัตน์ กล่าวถึงความวุ่นวายทางการเมืองขณะนี้ว่า เป็นนิมิตหมายที่ดีในการแสดงออกทางประชาธิปไตยของประชาชน
ด้านนายก้องเกียรติ โอภาสวงการ ประธานกรรมการบริหารบริษัทเอเซียพลัส กล่าวว่า ผลการตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญ ไม่กระทบต่อตลาดทุนมากนัก เพราะการแสดงออกของกลุ่มต่างๆ ยังอยู่ในกรอบของกฎหมาย และไม่มีเหตุรุนแรง แต่หากสถานการณ์ยืดเยื้อ และการบังคับใช้เงินลงทุนโครงการขนาดใหญ่ภาครัฐยังล่าช้า อาจทำให้นักลงทุนต่างประเทศนั้นลดความน่าเชื่อถือ และหันไปลงทุนในประเทศที่เศรษฐกิจฟื้นตัว และหุ้นยังราคาถูก เช่น สหรัฐฯ ยุโรป และจีน