ในการประชุมวุฒิสภา ในวันนี้ (18 พ.ย.) ได้บรรจุร่าง พ.ร.บ.ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งของประเทศ วงเงิน 2 ล้านล้านบาท ในวาระ 2 และ 3 หลังจากที่คณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาแล้วเสร็จ น.พ.เจษฎ์ ศิรทรานนท์ ส.ว.สรรหา กล่าวว่า ประเด็นสำคัญในการพิจารณาวันนี้ คือ การลงมติว่าจะใช้ร่าง พ.ร.บ.ที่ได้มีการแก้ไขจากคณะกรรมาธิการฯ หรือใช้ร่างเดิมตามที่สภาผู้แทนราษฎรเห็นชอบ
สำหรับประเด็นที่คณะกรรมาธิการฯ ขอให้แก้ไขมี 2 ประเด็นในมาตรา 3 ว่าด้วยการกำหนดนิยามของถ้อยคำในกฎหมาย ซึ่งได้เพิ่มคำว่าโครงการเข้าไปแนบท้าย เพื่อป้องกันการเปลี่ยนแปลงโครงการภายหลัง และมาตรา 6 ว่าด้วยการกำหนดวัตถุประสงค์ของการกู้เงิน ซึ่งได้แก้ไขโดยการกู้ โดยต้องนำส่งคลังตามกฎหมายจากร่างเดิมไม่ต้องนำส่งคลัง เพื่อให้การกู้ครั้งนี้เข้าสู่ระบบงบประมาณปกติ และสามารถตรวจสอบได้ตามกลไกรัฐสภา
ด้านนายกิตติรัตน์ ณ ระรอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า หากวุฒิสภาพิจารณาให้นำเงินกู้ส่งเข้าคลังจะทำให้เกิดปัญหาการใช้เงินลงทุนโครงการ ซึ่งรัฐบาลจะต้องผลักดันให้สภาฯ ใช้ร่างกฎหมายตามที่สภาผู้แทนราษฎรเห็นชอบไปก่อนหน้า เพื่อให้การลงทุนเดิมเดินหน้าได้อย่างรวดเร็ว
ด้านนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า หากวุฒิสภาพิจารณาให้ใช้บัญชีแนบท้ายโครงการลงทุนกำหนดไว้ในกฎหมายก็ไม่มีปัญหา เนื่องจากได้เตรียมพร้อมทุกโครงการลงทุนไว้แล้ว
สำหรับประเด็นที่คณะกรรมาธิการฯ ขอให้แก้ไขมี 2 ประเด็นในมาตรา 3 ว่าด้วยการกำหนดนิยามของถ้อยคำในกฎหมาย ซึ่งได้เพิ่มคำว่าโครงการเข้าไปแนบท้าย เพื่อป้องกันการเปลี่ยนแปลงโครงการภายหลัง และมาตรา 6 ว่าด้วยการกำหนดวัตถุประสงค์ของการกู้เงิน ซึ่งได้แก้ไขโดยการกู้ โดยต้องนำส่งคลังตามกฎหมายจากร่างเดิมไม่ต้องนำส่งคลัง เพื่อให้การกู้ครั้งนี้เข้าสู่ระบบงบประมาณปกติ และสามารถตรวจสอบได้ตามกลไกรัฐสภา
ด้านนายกิตติรัตน์ ณ ระรอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า หากวุฒิสภาพิจารณาให้นำเงินกู้ส่งเข้าคลังจะทำให้เกิดปัญหาการใช้เงินลงทุนโครงการ ซึ่งรัฐบาลจะต้องผลักดันให้สภาฯ ใช้ร่างกฎหมายตามที่สภาผู้แทนราษฎรเห็นชอบไปก่อนหน้า เพื่อให้การลงทุนเดิมเดินหน้าได้อย่างรวดเร็ว
ด้านนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า หากวุฒิสภาพิจารณาให้ใช้บัญชีแนบท้ายโครงการลงทุนกำหนดไว้ในกฎหมายก็ไม่มีปัญหา เนื่องจากได้เตรียมพร้อมทุกโครงการลงทุนไว้แล้ว