นายประภัสร์ จงสงวน ผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) กล่าวว่า หลังจากที่การรถไฟแห่งประเทศไทยได้ปิดเส้นทางรถไฟสายเหนือเพื่อซ่อมแซมรางรถไฟ ตั้งแต่วันที่ 16 กันยายน 2556 ที่ผ่านมา และจะครบกำหนดสัญญา 45 วัน ในวันที่ 31ตุลาคม 2556 นี้ ซึ่งการดำเนินงานมีบริษัทผู้รับเหมาเข้ามาดำเนินการทำการเปลี่ยนหมอนรองรางรถไฟจากไม้เป็นคอนกรีต และเปลี่ยนรางรถไฟเป็นขนาด 100 ปอนด์ เน้นการซ่อมแซมเส้นทางรถไฟภายในอุโมงค์ทั้ง 4 แห่งเป็นหลัก คือ อุโมงค์ปางตูบขอบ อุโมงค์เขาพลึง อุโมงค์ห้วยแม่ลาน และอุโมงค์ขุนตาล ตลอดจนบริเวณจุดเสี่ยงต่างๆ เช่น ทางโค้ง ทางขึ้นเขา โดยการทำงานตามแผนงานได้ดำเนินการไปแล้วร้อยละ 84 แต่เมื่อเข้าสำรวจดูที่หน้างานซ่อมบำรุงปรากฏว่า ยังมีสภาพของรางรถไฟที่จำเป็นต้องมีการปรับปรุงอยู่อีกหลายจุด และหากทำงานตามแผนงานเดิม จุดเสี่ยงเหล่านี้ก็จะยังคงไม่ได้รับการแก้ไข ทั้งนี้ ส่วนหนึ่งที่งานล่าช้าก็เนื่องมาจากสาเหตุหลายประการ อาทิ ช่วงเวลาทำงานจริงที่มีเวลาเพียง 3-4ชั่วโมงต่อวัน ประกอบกับคนงานมีไม่เพียงพอ และในพื้นที่ได้เกิดฝนตกบ่อยครั้งจนไม่สามารถทำงานได้ ดังนั้น จึงจำเป็นต้องมีการขยายระยะเวลาทำการซ่อมแซมรางรถไฟออกไปอีก 30 วัน จากกำหนดการเดิม คือ ไปสิ้นสุดการซ่อมบำรุงทางในวันที่ 30 พฤศจิกายน 2556 และเพื่อความปลอดภัยของผู้โดยสารเห็นควรให้มีการเปลี่ยนรางรถไฟเพิ่มขึ้นจากแผนเดิม 105 กิโลเมตรเป็น 203 กิโลเมตร
ทั้งนี้ รถไฟสายเหนือจะสามารถเปิดให้บริการได้อีกครั้งในวันที่ 1 ธันวาคม 2556 และจะไม่มีเหตุการณ์รถไฟตกรางอันเนื่องมาจากสภาพรางที่ชำรุดอีก 100 เปอร์เซ็นต์
ทั้งนี้ สำหรับประชาชนผู้ใช้บริการที่ได้ซื้อตั๋วโดยสารไว้แล้วสามารถเก็บตั๋วโดยสารไว้ใช้ในวันที่ 1 ธันวาคมได้ หรือหากต้องการจะขอคืนตั๋วโดยสารทางการรถไฟแห่งประเทศไทยก็ยินดีที่จะคืนเงินให้เต็มจำนวน
ทั้งนี้ รถไฟสายเหนือจะสามารถเปิดให้บริการได้อีกครั้งในวันที่ 1 ธันวาคม 2556 และจะไม่มีเหตุการณ์รถไฟตกรางอันเนื่องมาจากสภาพรางที่ชำรุดอีก 100 เปอร์เซ็นต์
ทั้งนี้ สำหรับประชาชนผู้ใช้บริการที่ได้ซื้อตั๋วโดยสารไว้แล้วสามารถเก็บตั๋วโดยสารไว้ใช้ในวันที่ 1 ธันวาคมได้ หรือหากต้องการจะขอคืนตั๋วโดยสารทางการรถไฟแห่งประเทศไทยก็ยินดีที่จะคืนเงินให้เต็มจำนวน