การประชุมสุดยอดผู้นำสหภาพยุโรป (อียู) ที่เริ่มต้นในวันพฤหัสบดี (24 ต.ค.) ถูกครอบงำด้วยกรณีที่สหรัฐฯถูกเปิดโปงว่า แอบดักฟังโทรศัพท์ของนายกรัฐมนตรี อังเกลา แมร์เคิล ของเยอรมนี ตลอดจนของชาวฝรั่งเศสหลายสิบล้านคน โดยแหล่งข่าวทางการทูตแย้มผู้นำแดนดอยช์และเมืองน้ำหอมนัดถกเรื่องนี้ นอกจากนั้นมีข่าวว่า ประธานาธิบดีฟรังซัวส์ ออลลองด์ แห่งฝรั่งเศส ยังเตรียมผลักดันเข้าสู่การหารือในที่ประชุมซัมมิตด้วย ขณะที่กระทรวงการต่างประเทศเยอรมันก็เรียกเอกอัครราชทูตอเมริกันมาประท้วง
แหล่งข่าวในวงการทูตฝรั่งเศสเผยว่า แมร์เคิล กับ ออลลองด์ นัดหารือกันนอกรอบระหว่างการประชุมสุดยอดสหภาพยุโรป (อียู) ที่เริ่มต้นขึ้นวันพฤหัสบดี (24) และขณะนี้ถูกครอบงำด้วยการสอดแนมสุดอื้อฉาวของอเมริกา
ก่อนหน้านั้นหนึ่งวัน แมร์เคิลได้โทรศัพท์ไปหาประธานาธิบดีบารัค โอบามา ของสหรัฐฯ เพื่อเตือนว่า หากรายงานจากแดร์ ชปีเกล หนังสือพิมพ์รายสัปดาห์ชื่อดังของแดนดอยช์ ที่ระบุว่า อเมริกาดักฟังโทรศัพท์มือถือของเธอเป็นความจริง จะถือเป็นการละเมิดความไว้วางใจระหว่างพันธมิตร
คำแถลงของฝ่ายเบอร์ลินยังระบุว่า แมร์เคิลกล่าวชัดถ้อยชัดคำกับโอบามาว่า รับไม่ได้กับการกระทำดังกล่าว พร้อมเรียกร้องให้วอชิงตันชี้แจงอย่างละเอียดทันที
นอกจากนั้น กิโด เวสเตอร์เวลล์ รัฐมนตรีต่างประเทศเยอรมนี ยังเรียกจอห์น บี. เอเมอร์สัน เอกอัครราชทูตอเมริกันเข้าพบในช่วงบ่ายวันพฤหัสบดี เพื่อชี้แจงจุดยืนของรัฐบาลในการต่อต้านการสอดแนมของวอชิงตัน การประท้วงเช่นนี้ถือเป็นเหตุการณ์ที่ผิดปกติมากระหว่างสองชาติที่เป็นพันธมิตรกันมาหลายสิบปี
ด้านโฆษกทำเนียบขาว เจย์ คาร์นีย์ แก้ต่างว่า อเมริกาไม่ได้ดักฟังแมร์เคิลอยู่ในขณะนี้และจะไม่ดักฟังในอนาคต แต่เขาก็ไม่ปฏิเสธความเป็นไปได้ว่า ที่ผ่านมาอาจมีการสอดแนมการสื่อสารของผู้นำเยอรมนี
ถึงแม้หน่วยงานข่าวกรองอเมริกาและเยอรมนีมีความร่วมมือกันใกล้ชิดในการต่อต้านการก่อการร้ายและประเด็นอื่นๆ ที่เกี่ยวกับการจารกรรม แต่การเปิดโปงล่าสุดก็บั่นทอนความไว้ใจเป็นการส่วนตัวและความร่วมมือกันระหว่างโอบามาและแมร์เคิล ทั้งนี้การที่นายกฯหญิงผู้นี้เติบโตมาในเยอรมนีตะวันออก ซึ่งทางการคอมมิวนิสต์ที่นั่นสอดแนมพลเมืองอยู่เป็นประจำ ดูจะทำให้เธอฝังใจรังเกียจพฤติการณ์เช่นนี้ นอกจากนั้นแล้วชาวเยอรมันยังมีอดีตที่เจ็บช้ำจากการใช้อำนาจในทางมิชอบของหน่วยงานความมั่นคงในยุคนาซี
แหล่งข่าวในวงการทูตฝรั่งเศสเผยว่า แมร์เคิล กับ ออลลองด์ นัดหารือกันนอกรอบระหว่างการประชุมสุดยอดสหภาพยุโรป (อียู) ที่เริ่มต้นขึ้นวันพฤหัสบดี (24) และขณะนี้ถูกครอบงำด้วยการสอดแนมสุดอื้อฉาวของอเมริกา
ก่อนหน้านั้นหนึ่งวัน แมร์เคิลได้โทรศัพท์ไปหาประธานาธิบดีบารัค โอบามา ของสหรัฐฯ เพื่อเตือนว่า หากรายงานจากแดร์ ชปีเกล หนังสือพิมพ์รายสัปดาห์ชื่อดังของแดนดอยช์ ที่ระบุว่า อเมริกาดักฟังโทรศัพท์มือถือของเธอเป็นความจริง จะถือเป็นการละเมิดความไว้วางใจระหว่างพันธมิตร
คำแถลงของฝ่ายเบอร์ลินยังระบุว่า แมร์เคิลกล่าวชัดถ้อยชัดคำกับโอบามาว่า รับไม่ได้กับการกระทำดังกล่าว พร้อมเรียกร้องให้วอชิงตันชี้แจงอย่างละเอียดทันที
นอกจากนั้น กิโด เวสเตอร์เวลล์ รัฐมนตรีต่างประเทศเยอรมนี ยังเรียกจอห์น บี. เอเมอร์สัน เอกอัครราชทูตอเมริกันเข้าพบในช่วงบ่ายวันพฤหัสบดี เพื่อชี้แจงจุดยืนของรัฐบาลในการต่อต้านการสอดแนมของวอชิงตัน การประท้วงเช่นนี้ถือเป็นเหตุการณ์ที่ผิดปกติมากระหว่างสองชาติที่เป็นพันธมิตรกันมาหลายสิบปี
ด้านโฆษกทำเนียบขาว เจย์ คาร์นีย์ แก้ต่างว่า อเมริกาไม่ได้ดักฟังแมร์เคิลอยู่ในขณะนี้และจะไม่ดักฟังในอนาคต แต่เขาก็ไม่ปฏิเสธความเป็นไปได้ว่า ที่ผ่านมาอาจมีการสอดแนมการสื่อสารของผู้นำเยอรมนี
ถึงแม้หน่วยงานข่าวกรองอเมริกาและเยอรมนีมีความร่วมมือกันใกล้ชิดในการต่อต้านการก่อการร้ายและประเด็นอื่นๆ ที่เกี่ยวกับการจารกรรม แต่การเปิดโปงล่าสุดก็บั่นทอนความไว้ใจเป็นการส่วนตัวและความร่วมมือกันระหว่างโอบามาและแมร์เคิล ทั้งนี้การที่นายกฯหญิงผู้นี้เติบโตมาในเยอรมนีตะวันออก ซึ่งทางการคอมมิวนิสต์ที่นั่นสอดแนมพลเมืองอยู่เป็นประจำ ดูจะทำให้เธอฝังใจรังเกียจพฤติการณ์เช่นนี้ นอกจากนั้นแล้วชาวเยอรมันยังมีอดีตที่เจ็บช้ำจากการใช้อำนาจในทางมิชอบของหน่วยงานความมั่นคงในยุคนาซี