นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะผู้บัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ (บก.ปภ.ช.) กล่าวว่า จากสถานการณ์อุทกภัยที่ขยายวงกว้างในหลายพื้นที่ นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ห่วงใยผู้ประสบภัย จึงได้มีข้อสั่งการเชิงนโยบายมอบหมายให้กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) บูรณาการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ความช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย
โดยให้กำหนดพื้นที่ปฏิบัติงานการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยและแบ่งมอบหน้าที่ภารกิจครอบคลุม 8 ด้าน ดังนี้ ด้านการบริหารจัดการน้ำและการระบายน้ำ ให้กรมชลประทานร่วมกับจังหวัดที่ประสบอุทกภัยเร่งระบายน้ำที่ท่วมขังออกจากพื้นที่โดยเร็วที่สุด ด้านการแก้ไขปัญหาน้ำเน่าเสียและจัดหาน้ำเพื่อการอุปโภคบริโภค ให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงมหาดไทย สนับสนุนการแก้ไขปัญหาน้ำเน่าเสียและจัดหาน้ำสะอาดบริการผู้ประสบภัย
ด้านการฟื้นฟูเส้นทางคมนาคม ให้กระทรวงคมนาคม กระทรวงมหาดไทย กระทรวงกลาโหม เร่งซ่อมแซมถนนและสะพานที่ได้รับความเสียหายจากอุทกภัยให้สามารถใช้งานได้ ด้านการปิดล้อมควบคุมพื้นที่สำคัญ ให้กระทรวงคมนาคม กระทรวงกลาโหม และจังหวัดที่ประสบอุทกภัยจัดทำแนวกั้นน้ำป้องกันมิให้พื้นที่สำคัญได้รับผลกระทบ โดยเฉพาะในพื้นที่เศรษฐกิจ เขตชุมชน และเส้นทางคมนาคมสายหลัก
ด้านการช่วยเหลือผู้ประสบภัย ให้กระทรวงมหาดไทย กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กระทรวงศึกษาธิการ ดูแลชีวิตความเป็นอยู่และความปลอดภัยของผู้ประสบภัย ทั้งที่อาศัยอยู่ในบ้านเรือน ศูนย์พักพิงชั่วคราว และจุดอพยพ ด้านการสำรวจความเสียหายให้กระทรวงมหาดไทย กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และกระทรวงกลาโหม ดำเนินการสำรวจความเสียหายไว้ล่วงหน้า ครอบคลุมทั้งในส่วนของบ้านเรือน ทรัพย์สิน และพื้นที่การเกษตร
ด้านสาธารณสุข ให้กระทรวงสาธารณสุข เป็นหน่วยงานหลักในการดูแลสุขภาพอนามัยของประชาชนในพื้นที่ประสบภัย เพื่อป้องกันโรคระบาดในช่วงน้ำท่วม รวมถึงการดูแลสภาพจิตใจของผู้ประสบภัย และด้านการช่วยเหลืออื่นๆ ให้กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ร่วมกับจังหวัดที่ประสบอุทกภัย วางหลักเกณฑ์และแนวทางปฏิบัติที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้การช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยมีประสิทธิภาพ และครอบคลุมการปฏิบัติงานทุกด้าน
ทั้งนี้ กองบัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ (บก.ปภ.ช.) โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) จะได้บูรณาการความร่วมมือกับหน่วยงานที่เป็นเจ้าภาพหลักในแต่ละด้านแก้ไขปัญหาและให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยอย่างต่อเนื่อง เพื่อนำการช่วยเหลือผู้ประสบภัยทุกรูปแบบตามข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรีไปสู่การปฏิบัติในพื้นที่ประสบภัยอย่างเป็นรูปธรรม นอกจากนี้ ได้กำชับให้ผู้ว่าราชการจังหวัดที่ประสบอุทกภัยประสานหน่วยงานเจ้าภาพหลักทั้ง 8 ด้าน อย่างใกล้ชิด ซึ่งจะทำให้การแก้ไขปัญหาและการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยเป็นไปในทิศทางเดียวกัน ผู้ประสบภัยได้รับการช่วยเหลืออย่างรวดเร็ว ทั่วถึง และเป็นธรรม
ขณะที่นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) กล่าวว่า กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยได้ประสานจังหวัดที่ประสบภัยเร่งสำรวจข้อมูลความเสียหายจากอุทกภัยทุกด้าน ทั้งบ้านเรือน ทรัพย์สิน การประกอบอาชีพพื้นที่การเกษตรและสิ่งสาธารณูปโภคไว้ล่วงหน้า เพื่อจัดทำเป็นฐานข้อมูลกลางให้ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องนำไปวางแผนการชดเชยเยียวยาและ ฟื้นฟูพื้นที่ประสบภัย
ทั้งนี้ รัฐบาลโดยความร่วมมือของหน่วยงานทุกภาคส่วนได้บูรณาการให้การช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยอย่างต่อเนื่อง และวางแนวทางการเยียวยาผู้ประสบอุทกภัยครอบคลุมทุกด้าน จึงขอให้มั่นใจว่ารัฐบาลไม่มีข้อจำกัดในการดูแลประชาชน ผู้ประสบภัยจะได้รับการช่วยเหลือเยียวยาอย่างเท่าเทียม ทั่วถึง เป็นธรรม และครอบคลุมตามระเบียบกระทรวงการคลัง
โดยให้กำหนดพื้นที่ปฏิบัติงานการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยและแบ่งมอบหน้าที่ภารกิจครอบคลุม 8 ด้าน ดังนี้ ด้านการบริหารจัดการน้ำและการระบายน้ำ ให้กรมชลประทานร่วมกับจังหวัดที่ประสบอุทกภัยเร่งระบายน้ำที่ท่วมขังออกจากพื้นที่โดยเร็วที่สุด ด้านการแก้ไขปัญหาน้ำเน่าเสียและจัดหาน้ำเพื่อการอุปโภคบริโภค ให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงมหาดไทย สนับสนุนการแก้ไขปัญหาน้ำเน่าเสียและจัดหาน้ำสะอาดบริการผู้ประสบภัย
ด้านการฟื้นฟูเส้นทางคมนาคม ให้กระทรวงคมนาคม กระทรวงมหาดไทย กระทรวงกลาโหม เร่งซ่อมแซมถนนและสะพานที่ได้รับความเสียหายจากอุทกภัยให้สามารถใช้งานได้ ด้านการปิดล้อมควบคุมพื้นที่สำคัญ ให้กระทรวงคมนาคม กระทรวงกลาโหม และจังหวัดที่ประสบอุทกภัยจัดทำแนวกั้นน้ำป้องกันมิให้พื้นที่สำคัญได้รับผลกระทบ โดยเฉพาะในพื้นที่เศรษฐกิจ เขตชุมชน และเส้นทางคมนาคมสายหลัก
ด้านการช่วยเหลือผู้ประสบภัย ให้กระทรวงมหาดไทย กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กระทรวงศึกษาธิการ ดูแลชีวิตความเป็นอยู่และความปลอดภัยของผู้ประสบภัย ทั้งที่อาศัยอยู่ในบ้านเรือน ศูนย์พักพิงชั่วคราว และจุดอพยพ ด้านการสำรวจความเสียหายให้กระทรวงมหาดไทย กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และกระทรวงกลาโหม ดำเนินการสำรวจความเสียหายไว้ล่วงหน้า ครอบคลุมทั้งในส่วนของบ้านเรือน ทรัพย์สิน และพื้นที่การเกษตร
ด้านสาธารณสุข ให้กระทรวงสาธารณสุข เป็นหน่วยงานหลักในการดูแลสุขภาพอนามัยของประชาชนในพื้นที่ประสบภัย เพื่อป้องกันโรคระบาดในช่วงน้ำท่วม รวมถึงการดูแลสภาพจิตใจของผู้ประสบภัย และด้านการช่วยเหลืออื่นๆ ให้กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ร่วมกับจังหวัดที่ประสบอุทกภัย วางหลักเกณฑ์และแนวทางปฏิบัติที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้การช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยมีประสิทธิภาพ และครอบคลุมการปฏิบัติงานทุกด้าน
ทั้งนี้ กองบัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ (บก.ปภ.ช.) โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) จะได้บูรณาการความร่วมมือกับหน่วยงานที่เป็นเจ้าภาพหลักในแต่ละด้านแก้ไขปัญหาและให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยอย่างต่อเนื่อง เพื่อนำการช่วยเหลือผู้ประสบภัยทุกรูปแบบตามข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรีไปสู่การปฏิบัติในพื้นที่ประสบภัยอย่างเป็นรูปธรรม นอกจากนี้ ได้กำชับให้ผู้ว่าราชการจังหวัดที่ประสบอุทกภัยประสานหน่วยงานเจ้าภาพหลักทั้ง 8 ด้าน อย่างใกล้ชิด ซึ่งจะทำให้การแก้ไขปัญหาและการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยเป็นไปในทิศทางเดียวกัน ผู้ประสบภัยได้รับการช่วยเหลืออย่างรวดเร็ว ทั่วถึง และเป็นธรรม
ขณะที่นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) กล่าวว่า กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยได้ประสานจังหวัดที่ประสบภัยเร่งสำรวจข้อมูลความเสียหายจากอุทกภัยทุกด้าน ทั้งบ้านเรือน ทรัพย์สิน การประกอบอาชีพพื้นที่การเกษตรและสิ่งสาธารณูปโภคไว้ล่วงหน้า เพื่อจัดทำเป็นฐานข้อมูลกลางให้ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องนำไปวางแผนการชดเชยเยียวยาและ ฟื้นฟูพื้นที่ประสบภัย
ทั้งนี้ รัฐบาลโดยความร่วมมือของหน่วยงานทุกภาคส่วนได้บูรณาการให้การช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยอย่างต่อเนื่อง และวางแนวทางการเยียวยาผู้ประสบอุทกภัยครอบคลุมทุกด้าน จึงขอให้มั่นใจว่ารัฐบาลไม่มีข้อจำกัดในการดูแลประชาชน ผู้ประสบภัยจะได้รับการช่วยเหลือเยียวยาอย่างเท่าเทียม ทั่วถึง เป็นธรรม และครอบคลุมตามระเบียบกระทรวงการคลัง