กระทรวงการต่างประเทศ ได้ออกแถลงการณ์ผ่านเว็บไซต์ www.mfa.go.th ถึงกรณีที่กระทรวงแรงงานสหรัฐอเมริกาได้ออกรายงาน "Findings on the Worst Forms of Child Labor" ประจำปี 2555 ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของรายงานประจำปีที่กระทรวงแรงงานสหรัฐฯ จัดทำขึ้นตามกฎหมายว่าด้วยการค้าและการพัฒนา ปี ค.ศ.2000 โดยรายงานดังกล่าวระบุว่า ประเทศไทยมีความก้าวหน้าเป็นอย่างมากในการพยายามขจัดการใช้แรงงานเด็กในรูปแบบที่เลวร้ายที่สุด ขณะที่ในปีก่อนหน้านี้ ไทยได้รับการจัดอันดับอยู่ในระดับปานกลาง สำหรับรายงานเรื่องการใช้แรงงานเด็กในรูปแบบที่เลวร้ายที่สุดของกระทรวงแรงงานของสหรัฐฯ จำแนกผลการดำเนินงานของรัฐบาลประเทศต่างๆ เป็น 4 ระดับได้แก่ ก้าวหน้าเป็นอย่างมาก ก้าวหน้าปานกลาง ก้าวหน้าน้อย และไม่มีความก้าวหน้า
รายงานดังกล่าว ระบุด้วยว่า ประเทศไทยมีความก้าวหน้าเป็นอย่างมากในการขจัดการใช้แรงงานเด็กในรูปแบบที่เลวร้าย เนื่องจากหน่วยงานต่างๆ ของไทยพยายามอย่างจริงจังที่จะคุ้มครองแรงงานและสวัสดิการสำหรับลูกจ้างเด็ก เช่น ออกกฎกระทรวงกำหนดอายุขั้นต่ำสำหรับการทำงานบ้านไว้ที่ 15 ปี และกำหนดให้มีวันหยุดประจำสัปดาห์ และวันหยุดประจำปีสำหรับลูกจ้างที่ทำงาน บ้าน แต่ระเบียบดังกล่าวไม่มีข้อกำหนดจำนวนชั่วโมงทำงาน
ขณะเดียวกัน มีการเพิ่มอายุขั้นต่ำสำหรับเด็กในการทำงานในเรือเดินทะเลจาก 15 ปี เป็น 18 ปี และมีการปรับบัญชีรายการประเภทงานอันตราย และสภาพการทำงานต้องห้ามสำหรับเด็ก ให้สอดคล้องกับมาตรฐานสากลในปัจจุบัน
นอกจากนี้ รัฐบาลไทยได้ประกาศนโยบายที่จะขยายสวัสดิการของแรงงานไทยให้ครอบคลุมผู้อพยพ หญิงและเด็กโดยเฉพาะด้านการรักษาพยาบาล นอกจากนี้ รัฐบาลไทยได้ลดอัตราค่าตรวจลงตราสำหรับคนงานจากลาว กัมพูชาและเมียนมาร์ เพื่อส่งเสริมให้คนงานเหล่านี้เข้าเมืองอย่างถูกต้องตามกฎหมาย รวมทั้งประกาศมาตรการที่จะพิสูจน์สัญชาติเพื่อขึ้นทะเบียนบุตรของคนงานซึ่ง ย้ายถิ่นฐานมาไทย โดยเด็กเหล่านี้จะได้รับสถานภาพให้อยู่ในไทยได้โดยถูกต้องตามกฎหมาย ที่สำคัญไทยยังคงดำเนินการอย่างต่อเนื่องและแข็งขันในการขจัดแรงงานเด็กใน อุตสาหกรรมกุ้งและอาหารทะเลแปรรูปอีกด้วย
ทั้งนี้ แถลงการณ์กระทรวงการต่างประเทศ ได้ชี้ให้เห็นว่าการที่กระทรวงแรงงานของสหรัฐฯ ยอมรับว่า ไทยมีความก้าวหน้าเป็นอย่างมากในการขจัดการใช้แรงงานเด็กในรูปแบบที่เลวร้าย แสดงให้เห็นว่าการทำงานอย่างบูรณาการระหว่างหน่วยงานฝ่ายปฏิบัติของไทยมี ผลลัพธ์อย่างเป็นรูปธรรม ทั้งนี้ การแก้ไขปัญหาแรงงานเด็กของไทยจะมีส่วนช่วยในการคงสถานะสิทธิพิเศษทางภาษี ศุลกากรเป็นการทั่วไปของไทยกับสหรัฐฯ ซึ่งจะเป็นผลดีต่อผู้ประกอบการ การสร้างงานและการส่งออกของไทยอีกด้วย
รายงานดังกล่าว ระบุด้วยว่า ประเทศไทยมีความก้าวหน้าเป็นอย่างมากในการขจัดการใช้แรงงานเด็กในรูปแบบที่เลวร้าย เนื่องจากหน่วยงานต่างๆ ของไทยพยายามอย่างจริงจังที่จะคุ้มครองแรงงานและสวัสดิการสำหรับลูกจ้างเด็ก เช่น ออกกฎกระทรวงกำหนดอายุขั้นต่ำสำหรับการทำงานบ้านไว้ที่ 15 ปี และกำหนดให้มีวันหยุดประจำสัปดาห์ และวันหยุดประจำปีสำหรับลูกจ้างที่ทำงาน บ้าน แต่ระเบียบดังกล่าวไม่มีข้อกำหนดจำนวนชั่วโมงทำงาน
ขณะเดียวกัน มีการเพิ่มอายุขั้นต่ำสำหรับเด็กในการทำงานในเรือเดินทะเลจาก 15 ปี เป็น 18 ปี และมีการปรับบัญชีรายการประเภทงานอันตราย และสภาพการทำงานต้องห้ามสำหรับเด็ก ให้สอดคล้องกับมาตรฐานสากลในปัจจุบัน
นอกจากนี้ รัฐบาลไทยได้ประกาศนโยบายที่จะขยายสวัสดิการของแรงงานไทยให้ครอบคลุมผู้อพยพ หญิงและเด็กโดยเฉพาะด้านการรักษาพยาบาล นอกจากนี้ รัฐบาลไทยได้ลดอัตราค่าตรวจลงตราสำหรับคนงานจากลาว กัมพูชาและเมียนมาร์ เพื่อส่งเสริมให้คนงานเหล่านี้เข้าเมืองอย่างถูกต้องตามกฎหมาย รวมทั้งประกาศมาตรการที่จะพิสูจน์สัญชาติเพื่อขึ้นทะเบียนบุตรของคนงานซึ่ง ย้ายถิ่นฐานมาไทย โดยเด็กเหล่านี้จะได้รับสถานภาพให้อยู่ในไทยได้โดยถูกต้องตามกฎหมาย ที่สำคัญไทยยังคงดำเนินการอย่างต่อเนื่องและแข็งขันในการขจัดแรงงานเด็กใน อุตสาหกรรมกุ้งและอาหารทะเลแปรรูปอีกด้วย
ทั้งนี้ แถลงการณ์กระทรวงการต่างประเทศ ได้ชี้ให้เห็นว่าการที่กระทรวงแรงงานของสหรัฐฯ ยอมรับว่า ไทยมีความก้าวหน้าเป็นอย่างมากในการขจัดการใช้แรงงานเด็กในรูปแบบที่เลวร้าย แสดงให้เห็นว่าการทำงานอย่างบูรณาการระหว่างหน่วยงานฝ่ายปฏิบัติของไทยมี ผลลัพธ์อย่างเป็นรูปธรรม ทั้งนี้ การแก้ไขปัญหาแรงงานเด็กของไทยจะมีส่วนช่วยในการคงสถานะสิทธิพิเศษทางภาษี ศุลกากรเป็นการทั่วไปของไทยกับสหรัฐฯ ซึ่งจะเป็นผลดีต่อผู้ประกอบการ การสร้างงานและการส่งออกของไทยอีกด้วย