นาวาตรีกรภัทร ศรีพิพัฒน์ หัวหน้าสถานีเรือมุกดาหาร รับรายงานว่ามีกลุ่มลักลอบขนไม้พะยูงจาก อ.นิคมคำสร้อย โดยใช้ถนนมุกดาหาร-นิคมคำสร้อย จึงประสานกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน จ.มุกดาหาร และด่านตรวจคนเข้าเมืองมุกดาหาร เพื่อนำกำลังไปดักซุ่มจนพบรถยนต์กระบะโตโยต้า สีบรอนซ์ ทะเบียน บษ-215 ขอนแก่น วิ่งมาด้วยความเร็วสูง เจ้าหน้าที่จึงให้สัญญาณเพื่อหยุดตรวจ แต่คนขับรถคันดังกล่าวไม่ยอมหยุด กลับเร่งเครื่องยนต์เพื่อจะหลบหนี เจ้าหน้าที่จึงขับรถติดตามและสามารถสกัดกั้นได้ที่บริเวณหน้าสำนักงานชลประทานมุกดาหาร ก่อนถึงถนนเลี่ยงเมืองไปยังสะพานมิตรภาพไทยลาวแห่งที่ 2
ทั้งนี้ ตรวจสอบพบชาย 2 คน และกระบะด้านหลังพบบรรทุกไม้พะยูงจำนวน 15 ท่อน มูลค่า 3 แสนบาท ซึ่งตรวจสอบไม้ไม่พบรูปรอยดวงตราของทางราชการ
เบื้องต้นทั้งสองให้การรับสารภาพว่า รับการว่าจ้างให้ขนไม้พะยูงไปส่งให้กับนายทุนริมฝั่งแม่น้ำโขง โดยไม่บอกค่าจ้างและนำมาจากแหล่งใด เจ้าหน้าที่จึงแจ้งข้อกล่าวหาทั้งสองคนฐานผิด พ.ร.บ. ป่าไม้ พ.ศ. 2484 มาตรา 48 ร่วมกันมีไม้หวงห้ามไว้ในครอบครองเกิน 0.20 ลูกบาศก์เมตร จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงควบคุมทั้งสองพร้อมของกลางรถยนต์ และไม้พะยูง ส่งพนักงานสอบสวน สภ. เมืองมุกดาหาร เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ทั้งนี้ ตรวจสอบพบชาย 2 คน และกระบะด้านหลังพบบรรทุกไม้พะยูงจำนวน 15 ท่อน มูลค่า 3 แสนบาท ซึ่งตรวจสอบไม้ไม่พบรูปรอยดวงตราของทางราชการ
เบื้องต้นทั้งสองให้การรับสารภาพว่า รับการว่าจ้างให้ขนไม้พะยูงไปส่งให้กับนายทุนริมฝั่งแม่น้ำโขง โดยไม่บอกค่าจ้างและนำมาจากแหล่งใด เจ้าหน้าที่จึงแจ้งข้อกล่าวหาทั้งสองคนฐานผิด พ.ร.บ. ป่าไม้ พ.ศ. 2484 มาตรา 48 ร่วมกันมีไม้หวงห้ามไว้ในครอบครองเกิน 0.20 ลูกบาศก์เมตร จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงควบคุมทั้งสองพร้อมของกลางรถยนต์ และไม้พะยูง ส่งพนักงานสอบสวน สภ. เมืองมุกดาหาร เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป