นายเลิศวิโรจน์ โกวัฒนะ อธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่า จากข้อมูลของศูนย์ประมวลวิเคราะห์สถานการณ์น้ำ กรมชลประทาน ขณะนี้เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์มีปริมาณน้ำ 839 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 107 ของความจุเก็บกัก แต่ยังคงต้องเฝ้าระวังพายุโซนร้อนหวู่ติ๊บ ที่บริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน ซึ่งคาดว่าจะเข้าฝั่งเวียดนามตอนบนในวันพรุ่งนี้ ตามประกาศของกรมอุตุนิยมวิทยา กรมชลประทานจึงเพิ่มการพร่องน้ำออกจากเขื่อนป่าสักฯ อย่างต่อเนื่อง โดยไม่ให้เกิดผลกระทบทางด้านท้ายน้ำในทันที ในเกณฑ์ประมาณ 350-400 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ซึ่งปัจจุบันได้พร่องน้ำอยู่ในเกณฑ์ 350 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที และจะควบคุมปริมาณน้ำให้ไหลผ่านเขื่อนพระรามหก ในเกณฑ์ประมาณ 600 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ซึ่งจะส่งผลให้ระดับน้ำในแม่น้ำป่าสัก ด้านท้ายเขื่อนป่าสักฯ เพิ่มขึ้นอีกประมาณ 65 เซนติเมตร ในท้องที่ จ.สระบุรี ส่วนด้านท้ายเขื่อนพระรามหก ในเขต อ.ท่าเรือ จ.พระนครศรีอยุธยา ระดับน้ำจะเพิ่มขึ้นประมาณ 90-110 เซนติเมตร จากระดับน้ำปัจจุบัน
ทั้งนี้ สำนักชลประทานที่ 10 ได้แจ้งเตือนไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องใน จ.สระบุรี และ จ.พระนครศรีอยุธยา เพื่อประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณสองริมฝั่ง ขนย้ายสิ่งของมีค่าขึ้นสู่ที่สูง
ทั้งนี้ สำนักชลประทานที่ 10 ได้แจ้งเตือนไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องใน จ.สระบุรี และ จ.พระนครศรีอยุธยา เพื่อประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณสองริมฝั่ง ขนย้ายสิ่งของมีค่าขึ้นสู่ที่สูง