พ.ต.อ.สุชาติ วงศ์อนันต์ชัย อธิบดีกรมราชทัณฑ์ กล่าวถึงสถานการณ์น้ำท่วมในหลายจังหวัดขณะนี้ว่า ได้สั่งการให้ทุกเรือนจำเฝ้าระวังสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เพื่อหาแนวทางรับมือ
โดยเบื้องต้นมีเพียงเรือนจำ อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี เพียงแห่งเดียวที่ได้รับผลกระทบ และต้องขนย้ายผู้ต้องขังหญิงบางส่วน ออกไปอยู่ที่เรือนจำ จ.สระแก้ว ซึ่งจากการสอบถามสถานการณ์พบว่า น้ำยังไม่ทะลักเข้าเรือนจำ แต่ต้องทยอยย้าย เพราะระดับน้ำภายนอกที่กั้นไว้มีปริมาณสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากในพื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่เสี่ยง ใกล้คลองหลัก 2 คลอง ทำให้น้ำขึ้นเร็ว
ทั้งนี้ เรือนจำประเมินแล้วว่า สถานการณ์จะไม่รุนแรง เหมือนน้ำท่วมใหญ่ปี 2554 และยังสามารถควบคุมสถานการณ์ โดยรวมได้ ไม่จำเป็นต้องย้ายผู้ต้องขังออกทั้งเรือนจำ โดยได้กำชับเรื่องการตุนเสบียง และการดูแลความปลอดภัยเป็นพิเศษ
อธิบดีกรมราชทัณฑ์ ยังกล่าวว่า จากการประเมินสถานการณ์ขณะนี้ เชื่อว่าเรือนจำทั่วประเทศ จะไม่ได้รับผลกระทบรุนแรง โดยปกติในสถานการณ์น้ำท่วม แต่ละเรือนจำจะมีมาตรการรับมือ ซึ่งมอบหมายให้ประธานเขตเป็นผู้รับผิดชอบ ประสานการทำงานกับเรือนจำที่อยู่ในพื้นที่รับผิดชอบ
โดยเบื้องต้นมีเพียงเรือนจำ อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี เพียงแห่งเดียวที่ได้รับผลกระทบ และต้องขนย้ายผู้ต้องขังหญิงบางส่วน ออกไปอยู่ที่เรือนจำ จ.สระแก้ว ซึ่งจากการสอบถามสถานการณ์พบว่า น้ำยังไม่ทะลักเข้าเรือนจำ แต่ต้องทยอยย้าย เพราะระดับน้ำภายนอกที่กั้นไว้มีปริมาณสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากในพื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่เสี่ยง ใกล้คลองหลัก 2 คลอง ทำให้น้ำขึ้นเร็ว
ทั้งนี้ เรือนจำประเมินแล้วว่า สถานการณ์จะไม่รุนแรง เหมือนน้ำท่วมใหญ่ปี 2554 และยังสามารถควบคุมสถานการณ์ โดยรวมได้ ไม่จำเป็นต้องย้ายผู้ต้องขังออกทั้งเรือนจำ โดยได้กำชับเรื่องการตุนเสบียง และการดูแลความปลอดภัยเป็นพิเศษ
อธิบดีกรมราชทัณฑ์ ยังกล่าวว่า จากการประเมินสถานการณ์ขณะนี้ เชื่อว่าเรือนจำทั่วประเทศ จะไม่ได้รับผลกระทบรุนแรง โดยปกติในสถานการณ์น้ำท่วม แต่ละเรือนจำจะมีมาตรการรับมือ ซึ่งมอบหมายให้ประธานเขตเป็นผู้รับผิดชอบ ประสานการทำงานกับเรือนจำที่อยู่ในพื้นที่รับผิดชอบ