นางสาวฑิตติมา วิชัยรัตน์ ผู้จัดการกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) เปิดเผยผลการดำเนินงานประจำปีงบประมาณ 2556 ว่า กยศ.มีกรอบวงเงินจัดสรรให้กับนักเรียน นักศึกษาจำนวน 8.81 แสนราย คิดเป็นเงิน 3.6 หมื่นล้านบาท โดยมีผลการให้กู้ยืมรวม 7.67 แสนราย เป็นเงิน 3.13 หมื่นล้านบาท ถือว่ากองทุนสามารถทำได้อยู่ในเกณฑ์ที่ดี แต่ยังพบปัญหาการค้างชำระหนี้เพิ่มสูงขึ้นตามอีกด้วย
นอกจากนี้ ในปี 2557 กยศ.ถูกตัดงบจำนวน 6,700 ล้านบาท ทำให้มีผลกระทบกับผู้ที่จะมากู้รายใหม่ รวมทั้งผู้กู้รายเดิมที่อาจจะไม่ได้รับอนุมัติวงเงินต่อไปได้ กยศ.จึงต้องเร่งรณรงค์ให้ผู้กู้ที่สำเร็จการศึกษาแล้ว นำเงินมาจ่ายค้างชำระ เพื่อให้ผู้กู้รายใหม่สามารถกู้ได้
ที่ผ่านมา กยศ.มีจำนวนผู้ที่ครบชำระหนี้คืนเงินตั้งแต่รุ่นแรกปี 2542 ถึงปัจจุบันรวมทั้งสิ้น 2.8 ล้านราย แต่จากข้อมูลการชำระหนี้ พบว่าเป็นผู้ที่ค้างชำระหนี้ถึง 1.48 ล้านราย คิดเป็นร้อยละ 53 ของผู้ที่ครบชำระหนี้ จากที่มีผู้กู้ยืมทั่วประเทศ 4.1 ล้านราย ใช้เงินไปแล้วกว่า 4.2 แสนล้านบาท กยศ.จึงได้ปรับเปลี่ยนการดำเนินการกู้ยืมใหม่ทั้งระบบ เพื่อลดปัญหาการไม่คืนเงินของผู้กู้ โดยสถานศึกษาจะต้องพิจารณาว่านักเรียน นักศึกษาที่ยื่นเรื่องขอกู้มา มีความตั้งใจเรียนหรือไม่ มีความประพฤติดีไหม หรือสาขาที่ศึกษามีงานรองรับ หรือไม่
นอกจากนี้ เพื่อเป็นการเพิ่มประสบการณ์ เพิ่มทักษะให้กับผู้กู้ยืมระหว่างเรียน และหากสำเร็จการศึกษามาแล้ว องค์กรภาคีเครือข่ายกองทุน พร้อมที่จะให้โอกาสในการจัดหางาน โดยกองทุนได้สร้างเครือข่ายในการรองรับกับแผนงานไว้แล้ว เป็นการร่วมมือกันทั้งภาครัฐและเอกชน
นางสาวฑิตติมา กล่าวว่า เพื่อเป็นการกระตุ้นการชำระเงินคืนกองทุน ในระหว่างเดือนพฤศจิกายน 2556-31 มีนาคม 2557 กองทุนได้จัดโครงการรณรงค์ชำระหนี้ เพื่อสร้างแรงจูงใจให้กับผู้ครบกำหนดชำระหนี้มาคืนชำระกับ ทาง กยศ.เพื่อสร้างโอกาสแก่ผู้กู้ในรุ่นถัดไป โดยในโครงการจะแบ่งเป็น กลุ่มผู้ที่ไม่มียอดคงค้าง หากมาทำการชำระและปิดบัญชีทั้งหมด จะได้รับการลดหย่อนหนี้ร้อยละ 3.5 ของเงินต้นที่มาปิดบัญชี และอีกกลุ่มจะเป็นกลุ่มที่มียอดหนี้ค้าง หากมาทำการชำระหนี้ให้เป็นปกติ จะได้ลดการปรับเบี้ยปรับ 100% หรือหากทำการชำระปิดบัญชีทั้งหมด นอกจากจะได้รับการลดเบี้ยปรับ 100% แล้วยังได้รับส่วนลดดอกเบี้ยอีก 50% อีกด้วย
นอกจากนี้ ในปี 2557 กยศ.ถูกตัดงบจำนวน 6,700 ล้านบาท ทำให้มีผลกระทบกับผู้ที่จะมากู้รายใหม่ รวมทั้งผู้กู้รายเดิมที่อาจจะไม่ได้รับอนุมัติวงเงินต่อไปได้ กยศ.จึงต้องเร่งรณรงค์ให้ผู้กู้ที่สำเร็จการศึกษาแล้ว นำเงินมาจ่ายค้างชำระ เพื่อให้ผู้กู้รายใหม่สามารถกู้ได้
ที่ผ่านมา กยศ.มีจำนวนผู้ที่ครบชำระหนี้คืนเงินตั้งแต่รุ่นแรกปี 2542 ถึงปัจจุบันรวมทั้งสิ้น 2.8 ล้านราย แต่จากข้อมูลการชำระหนี้ พบว่าเป็นผู้ที่ค้างชำระหนี้ถึง 1.48 ล้านราย คิดเป็นร้อยละ 53 ของผู้ที่ครบชำระหนี้ จากที่มีผู้กู้ยืมทั่วประเทศ 4.1 ล้านราย ใช้เงินไปแล้วกว่า 4.2 แสนล้านบาท กยศ.จึงได้ปรับเปลี่ยนการดำเนินการกู้ยืมใหม่ทั้งระบบ เพื่อลดปัญหาการไม่คืนเงินของผู้กู้ โดยสถานศึกษาจะต้องพิจารณาว่านักเรียน นักศึกษาที่ยื่นเรื่องขอกู้มา มีความตั้งใจเรียนหรือไม่ มีความประพฤติดีไหม หรือสาขาที่ศึกษามีงานรองรับ หรือไม่
นอกจากนี้ เพื่อเป็นการเพิ่มประสบการณ์ เพิ่มทักษะให้กับผู้กู้ยืมระหว่างเรียน และหากสำเร็จการศึกษามาแล้ว องค์กรภาคีเครือข่ายกองทุน พร้อมที่จะให้โอกาสในการจัดหางาน โดยกองทุนได้สร้างเครือข่ายในการรองรับกับแผนงานไว้แล้ว เป็นการร่วมมือกันทั้งภาครัฐและเอกชน
นางสาวฑิตติมา กล่าวว่า เพื่อเป็นการกระตุ้นการชำระเงินคืนกองทุน ในระหว่างเดือนพฤศจิกายน 2556-31 มีนาคม 2557 กองทุนได้จัดโครงการรณรงค์ชำระหนี้ เพื่อสร้างแรงจูงใจให้กับผู้ครบกำหนดชำระหนี้มาคืนชำระกับ ทาง กยศ.เพื่อสร้างโอกาสแก่ผู้กู้ในรุ่นถัดไป โดยในโครงการจะแบ่งเป็น กลุ่มผู้ที่ไม่มียอดคงค้าง หากมาทำการชำระและปิดบัญชีทั้งหมด จะได้รับการลดหย่อนหนี้ร้อยละ 3.5 ของเงินต้นที่มาปิดบัญชี และอีกกลุ่มจะเป็นกลุ่มที่มียอดหนี้ค้าง หากมาทำการชำระหนี้ให้เป็นปกติ จะได้ลดการปรับเบี้ยปรับ 100% หรือหากทำการชำระปิดบัญชีทั้งหมด นอกจากจะได้รับการลดเบี้ยปรับ 100% แล้วยังได้รับส่วนลดดอกเบี้ยอีก 50% อีกด้วย