เจ้าหน้าที่เม็กซิโก กำลังเร่งมืออพยพทางอากาศนักท่องเที่ยวที่อ่อนระโหยโรยแรงหลายหมื่นคนออกจากอะกาปุลโก เมืองตากอากาศชื่อดัง หลังตกค้างท่ามกลางโคลนและอุทกภัยจากพายูที่ซัดถล่ม 2 ลูกติดๆ ที่ยอดผู้เสียชีวิตตอนนี้พุ่งเป็นอย่างน้อย 57 รายแล้ว ขณะเดียวกันก็มีคำเตือนถึงพายุโซนร้อนที่ก่อตัวใหม่ในพื้นที่บางส่วนแถบชายฝั่ง
ในวันอังคาร(17) เจ้าหน้าที่เม็กซิโก เริ่มใช้เครื่องบินทหารและเครื่องบินพาณิชย์ เข้าอพยพนักท่องเที่ยวที่ตกค้างตามจุดต่างๆ ขณะที่เครื่องบินของกองทัพอากาศก็รับภารกิจส่งมอบเสบียงไปยังเมืองตากอากาศริมมหาสมุทรแปซิฟิกแห่งนี้
สื่อมวลชนท้องถิ่นรายงานโดยอ้างคำสัมภาษณ์ของ มิเกล อังเคล โอโซเรียว ชอง รัฐมนตรีกระทรวงมหาดไทยเม็กซิโก บอกว่ายอดผู้เสียชีวิตนับตั้งแต่พายุโซนร้อนอิงกริดและมานูเอล ซัดถล่มอย่างรุนแรง 2 ลูกติดในช่วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา เพิ่มขึ้นจาก 47 เป็น 57 ศพ และนับเป็นครั้งแรกตั้งแต่ปี 1958 ที่เม็กซิโก โดนพายุเข้าถล่ม 2 ลูกซ้อนในเวลาห่างกันไม่ถึง 24 ชั่วโมง
ฝนที่ตกลงมาอย่างหนักจากอิทธิพลของพายุส่งผลให้พื้นที่ส่วนใหญ่ของประเทศประสบปัญหาน้ำท่วมในช่วงเวลาที่ชาวเม็กซิโก ใช้วันหยุดยาว 3 วันพากันไปพักผ่อนตามสถานที่ตากอากาศต่างๆ จึงทำให้มีผู้ติดค้างจำนวนมาก ขณะที่พายุรุนแรงทั้งสองลูกยังจุดชนวนดินถล่มและน้ำในแม่น้ำทะลักเข้าท่วมในหลายๆรัฐ
จนถึงตอนนี้หลายภาคยังคงเผชิญกับฝนตกที่ตกลงมาอย่างหนักและน้ำท่วม แม้ว่าพายุอิงกริด อ่อนกำลังลงแล้วหลังจากเข้าโจมตีชายฝั่งทางตะวันออกของประเทศเมื่อวันจันทร์(16) อย่างไรก็ตามศูนย์พายุเฮอร์ริเคนแห่งชาติสหรัฐฯ ระบุว่ามานูเอลได้ก่อตัวขึ้นมาใหม่คราวนี้เป็นระดับดีเปรสชัน ในแถบตอนใต้ของคาบสมุทรบาฮากาลิฟอร์เนีย
ในการขึ้นฝั่งรอบแรก พายุมานูเอลได้นำมาซึ่งอุทกภัยเลวร้ายในแถบภาคใต้ของภาคกลางของเม็กซิโก และได้มีประกาศเตือนล่าสุดในตอนเช้าวันพุธ(18) อิทธิพลของพายุลูกนี้จะส่งผลกระทบบริเวณกว้างไล่ตั้งแต่เมืองมาซัตลันไปจนถึงโตโปโบบัมโป ด้วยเวลานี้มันก่อตัวอยู่ห่างจากเมืองมาซัตลัน ราว 145 กิโลเมตร มีกำลังสูงสุด 65 กิโลเมตรต่อชั่วโมงและเคลื่อนที่ไปทางตะวันตกเฉียงเหนือเยื้องไปทางเหนืออย่างช้าๆ ด้วยความเร็ว 6 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
ในวันอังคาร(17) เจ้าหน้าที่เม็กซิโก เริ่มใช้เครื่องบินทหารและเครื่องบินพาณิชย์ เข้าอพยพนักท่องเที่ยวที่ตกค้างตามจุดต่างๆ ขณะที่เครื่องบินของกองทัพอากาศก็รับภารกิจส่งมอบเสบียงไปยังเมืองตากอากาศริมมหาสมุทรแปซิฟิกแห่งนี้
สื่อมวลชนท้องถิ่นรายงานโดยอ้างคำสัมภาษณ์ของ มิเกล อังเคล โอโซเรียว ชอง รัฐมนตรีกระทรวงมหาดไทยเม็กซิโก บอกว่ายอดผู้เสียชีวิตนับตั้งแต่พายุโซนร้อนอิงกริดและมานูเอล ซัดถล่มอย่างรุนแรง 2 ลูกติดในช่วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา เพิ่มขึ้นจาก 47 เป็น 57 ศพ และนับเป็นครั้งแรกตั้งแต่ปี 1958 ที่เม็กซิโก โดนพายุเข้าถล่ม 2 ลูกซ้อนในเวลาห่างกันไม่ถึง 24 ชั่วโมง
ฝนที่ตกลงมาอย่างหนักจากอิทธิพลของพายุส่งผลให้พื้นที่ส่วนใหญ่ของประเทศประสบปัญหาน้ำท่วมในช่วงเวลาที่ชาวเม็กซิโก ใช้วันหยุดยาว 3 วันพากันไปพักผ่อนตามสถานที่ตากอากาศต่างๆ จึงทำให้มีผู้ติดค้างจำนวนมาก ขณะที่พายุรุนแรงทั้งสองลูกยังจุดชนวนดินถล่มและน้ำในแม่น้ำทะลักเข้าท่วมในหลายๆรัฐ
จนถึงตอนนี้หลายภาคยังคงเผชิญกับฝนตกที่ตกลงมาอย่างหนักและน้ำท่วม แม้ว่าพายุอิงกริด อ่อนกำลังลงแล้วหลังจากเข้าโจมตีชายฝั่งทางตะวันออกของประเทศเมื่อวันจันทร์(16) อย่างไรก็ตามศูนย์พายุเฮอร์ริเคนแห่งชาติสหรัฐฯ ระบุว่ามานูเอลได้ก่อตัวขึ้นมาใหม่คราวนี้เป็นระดับดีเปรสชัน ในแถบตอนใต้ของคาบสมุทรบาฮากาลิฟอร์เนีย
ในการขึ้นฝั่งรอบแรก พายุมานูเอลได้นำมาซึ่งอุทกภัยเลวร้ายในแถบภาคใต้ของภาคกลางของเม็กซิโก และได้มีประกาศเตือนล่าสุดในตอนเช้าวันพุธ(18) อิทธิพลของพายุลูกนี้จะส่งผลกระทบบริเวณกว้างไล่ตั้งแต่เมืองมาซัตลันไปจนถึงโตโปโบบัมโป ด้วยเวลานี้มันก่อตัวอยู่ห่างจากเมืองมาซัตลัน ราว 145 กิโลเมตร มีกำลังสูงสุด 65 กิโลเมตรต่อชั่วโมงและเคลื่อนที่ไปทางตะวันตกเฉียงเหนือเยื้องไปทางเหนืออย่างช้าๆ ด้วยความเร็ว 6 กิโลเมตรต่อชั่วโมง