เอเอฟพี - เจ้าหน้าที่เม็กซิโก กำลังเร่งมืออพยพทางอากาศนักท่องเที่ยวที่อ่อนระโหยโรยแรงหลายหมื่นคนออกจากอะกาปุลโก เมืองตากอากาศชื่อดัง หลังตกค้างท่ามกลางโคลนและอุทกภัยจากพายูที่ซัดถล่ม 2 ลูกติดๆ ที่ยอดผู้เสียชีวิตตอนนี้พุ่งเป็นอย่างน้อย 80 รายแล้ว ขณะเดียวกันก็มีคำเตือนถึงพายุโซนร้อนที่ก่อตัวใหม่ในพื้นที่บางส่วนแถบชายฝั่ง
ในวันอังคาร(17) เจ้าหน้าที่เม็กซิโก เริ่มใช้เครื่องบินทหารและเครื่องบินพาณิชย์ เข้าอพยพนักท่องเที่ยวที่ตกค้างตามจุดต่างๆ ขณะที่เครื่องบินของกองทัพอากาศก็รับภารกิจส่งมอบเสบียงไปยังเมืองตากอากาศริมมหาสมุทรแปซิฟิกแห่งนี้
สื่อมวลชนท้องถิ่นรายงานโดยอ้างคำสัมภาษณ์ของ มิเกล อังเคล โอโซเรียว ชอง รัฐมนตรีกระทรวงมหาดไทยเม็กซิโก บอกว่ายอดผู้เสียชีวิตนับตั้งแต่พายุโซนร้อนอิงกริดและมานูเอล ซัดถล่มอย่างรุนแรง 2 ลูกติดในช่วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา เพิ่มขึ้นจาก 57 เป็น 80 ศพ และนับเป็นครั้งแรกตั้งแต่ปี 1958 ที่เม็กซิโกโดนพายุเข้าถล่ม 2 ลูกซ้อนในเวลาห่างกันไม่ถึง 24 ชั่วโมง
ฝนที่ตกลงมาอย่างหนักจากอิทธิพลของพายุส่งผลให้พื้นที่ส่วนใหญ่ของประเทศประสบปัญหาน้ำท่วมในช่วงเวลาที่ชาวเม็กซิโก ใช้วันหยุดยาว 3 วันพากันไปพักผ่อนตามสถานที่ตากอากาศต่างๆ จึงทำให้มีผู้ติดค้างจำนวนมาก ขณะที่พายุรุนแรงทั้งสองลูกยังจุดชนวนดินถล่มและน้ำในแม่น้ำทะลักเข้าท่วมในหลายรัฐ
จนถึงตอนนี้หลายภาคยังคงเผชิญกับฝนตกที่ตกลงมาอย่างหนักและน้ำท่วม แม้ว่าพายุอิงกริด อ่อนกำลังลงแล้วหลังจากเข้าโจมตีชายฝั่งทางตะวันออกของประเทศเมื่อวันจันทร์ (16) อย่างไรก็ตาม ศูนย์พายุเฮอริเคนแห่งชาติสหรัฐฯ ระบุว่ามานูเอลได้ก่อตัวขึ้นมาใหม่คราวนี้เป็นระดับดีเปรสชัน ในแถบตอนใต้ของคาบสมุทรบาฮากาลิฟอร์เนีย
ในการขึ้นฝั่งรอบแรก พายุมานูเอลได้นำมาซึ่งอุทกภัยเลวร้ายในแถบภาคใต้ของภาคกลางของเม็กซิโก และได้มีประกาศเตือนล่าสุดในตอนเช้าวันพุธ (18) อิทธิพลของพายุลูกนี้จะส่งผลกระทบบริเวณกว้างไล่ตั้งแต่เมืองมาซัตลันไปจนถึงโตโปโบบัมโป ด้วยเวลานี้มันก่อตัวอยู่ห่างจากเมืองมาซัตลัน ราว 145 กิโลเมตร มีกำลังสูงสุด 65 กิโลเมตรต่อชั่วโมงและเคลื่อนที่ไปทางตะวันตกเฉียงเหนือเยื้องไปทางเหนืออย่างช้าๆ ด้วยความเร็ว 6 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
เจ้าหน้าที่เผยว่า มีนักท่องเที่ยวทั้งชาวเม็กซิโกและชาวต่างชาติราว 40,000 คนติดอยู่ตามโรงแรมต่างๆ ในเมืองอะกาปุลโก หลังจากดินถล่มปิดกั้นถนนสายหลักสองสายที่เป็นเส้นทางออกจากเมืองแห่งนี้ ขณะที่น้ำสูงระดับเข่าซึ่งยังท่วมอาคารที่พักผู้โดยสารของสนามบิน ก็ได้ตัดเส้นทางการสัญจรของเมืองตากอากาศอันสวยงามที่มีประชากร 680,000 คนแห่งนี้
ขณะเดียวกัน ในตัวเมืองก็มีหัวขโมยหลายพันคนหลั่งไหลออกมาจากศูนย์ขายส่งกอสต์โก ในเขตปกครองพิเศษเดียมันเต โดยหอบหิ้วอาหาร โทรทัศน์ หรือแม้กระทั่งตู้เย็นเดินลุยน้ำออกมาจากร้านค้า ส่วนทหารและตำรวจได้แต่ยืนมองตาปริบๆ ในเวลาเดียวกันนี้ ก็มีนักท่องเที่ยวและชาวบ้านที่ต่อแถวกันเพื่อซื้ออาหารที่ซูเปอร์มาร์เกตสามแห่งที่ยังคงเปิดให้บริการอยู่
รัฐมนตรีกระทรวงมหาดไทยเม็กซิโกเตือนว่า การเคลียร์เส้นทางหลวงสองสายที่มุ่งหน้าออกจากเมืองอะกาปุลโกให้เปิดใช้การได้ตามปกตินั้นต้องใช้เวลา 2 ถึง 3 วัน โดยทางหลวงทั้งสองอยู่ในรัฐเกร์โร ทางภาคตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศ พื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากพายุอย่างหนักหน่วง
สำหรับอาคารที่พักผู้โดยสารของสนามบินยังคงปิดทำการ แต่ผู้โดยสารถูกนำขึ้นรถตรงไปที่รันเวย์จากหอประชุมแห่งหนึ่งที่ถูกดัดแปลงให้เป็นที่พักพิงและศูนย์ปฏิบัติการของสายการบินต่างๆ
เครื่องบินทั้งของกองทัพ และของสายการบินแอโรเม็กซิโก ตลอดจนของสายการบินอินเทอร์เจ็ตเริ่มขนส่งผู้คนจากสนามบินอะกาปุลโกไปยังกรุงเม็กซิโกซิตีแล้ว เคราร์โด รุยซ์ เอสปาร์ซา รัฐมนตรีกระทรวงคมนาคมกล่าวว่า จนถึงตอนนี้มีผู้คนเดินทางออกจากเมืองนี้ไปแล้วราว 600 ราย
มิเกล อะเลมัน มัญญานี ประธานสายการบินอินเทอร์เจ็ตกล่าวว่า การบินเข้าไปในเมืองอะกาปุลโกนั้นเป็นเรื่องที่ยากมาก เพราะเรดาร์ใช้การไม่ได้ อีกทั้งบนรันเวย์ก็แทบจะไม่มีพื้นที่แห้งให้ลงจอด อย่างไรก็ตาม ทางสายการบินแอร์โรเม็กซิโกบอกว่ามีแผนลำเลียงประชาชนราว 2,000 คนออกนอกพื้นที่ในวั้นพุธ (18)
ทางการระบุว่า พื้นที่กว่าครึ่งในเมืองถูกน้ำท่วม ชาวบ้านบางคนเดินทางด้วยเจ็ตสกี ขณะที่ตำรวจระบุว่ามีการส่งเฮลิคอปเตอร์ไปอพยพประชาชนราว 200 คนที่หนีภัยน้ำท่วมไปอยู่บนหลังคาบ้าน ขณะที่โอโซเรียวกล่าวว่ามีเมือง 254 แห่งทั่วประเทศได้รับผลกระทบจากภัยธรรมชาติครั้งนี้ เป็นผลให้ประชาชน 39,000 คนต้องอพยพออกจากพื้นที่ แม่น้ำจำนวน 100 สายมีระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้น