เขื่อนเจ้าพระยา จ.ชัยนาท ระบายน้ำเพิ่มขึ้น หลังน้ำเหนือที่ไหลจาก จ.นครสวรรค์ มีปริมาณเพิ่ม เนื่องจากฝนตกหนักทางภาคเหนือตอนล่าง และภาคกลางตอนบน วันนี้น้ำที่ไหลจาก จ.นครสวรรค์ มีปริมาณ 1,260 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ส่งผลให้ระดับน้ำท้ายเขื่อนที่ อ.สรรพยา เพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ก่อน 1.8 เมตร แต่ยังอยู่ต่ำกว่าตลิ่ง 4 เมตร
สำนักชลประทานที่ 12 ได้แจ้งเตือนให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ลุ่ม ริมตลิ่งแม่น้ำเจ้าพระยา ตั้งแต่เขื่อนเจ้าพระยาลงไป ให้เตรียมขนย้ายสิ่งของมีค่าขึ้นที่สูง และคอยติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด เพราะปริมาณน้ำเจ้าพระยามีแนวโน้มที่จะเพิ่มสูงขึ้นอีก ซึ่งในวันที่ 20 กันยายนนี้ คาดว่าจะมีปริมาณน้ำไหลผ่านเขื่อนเจ้าพระยา เพิ่มขึ้นเป็น 1,500 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที จะทำให้ระดับน้ำแม่น้ำเจ้าพระยาบริเวณท้ายเขื่อนเจ้าพระยาเพิ่มขึ้นอีก 1 เมตร ส่วนบริเวณ จ.พระนครศรีอยุธยา จะเพิ่มสูงขึ้นอีกประมาณ 50 เซนติเมตร
สำหรับสถานการณ์น้ำท่วมที่ ต.โผงเผง จ.อ่างทอง และ ต.ผักไห่ จ.พระนครศรีอยุธยา เกิดจากน้ำที่ระบายจากเขื่อนเจ้าพระยา รวมกับน้ำฝนที่ตกในพื้นที่ ประกอบกับพื้นที่ดังกล่าว เป็นพื้นที่ลุ่มต่ำ และอยู่นอกแนวคันกั้นน้ำ จึงทำให้น้ำเอ่อท่วมได้
สำนักชลประทานที่ 12 ได้แจ้งเตือนให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ลุ่ม ริมตลิ่งแม่น้ำเจ้าพระยา ตั้งแต่เขื่อนเจ้าพระยาลงไป ให้เตรียมขนย้ายสิ่งของมีค่าขึ้นที่สูง และคอยติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด เพราะปริมาณน้ำเจ้าพระยามีแนวโน้มที่จะเพิ่มสูงขึ้นอีก ซึ่งในวันที่ 20 กันยายนนี้ คาดว่าจะมีปริมาณน้ำไหลผ่านเขื่อนเจ้าพระยา เพิ่มขึ้นเป็น 1,500 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที จะทำให้ระดับน้ำแม่น้ำเจ้าพระยาบริเวณท้ายเขื่อนเจ้าพระยาเพิ่มขึ้นอีก 1 เมตร ส่วนบริเวณ จ.พระนครศรีอยุธยา จะเพิ่มสูงขึ้นอีกประมาณ 50 เซนติเมตร
สำหรับสถานการณ์น้ำท่วมที่ ต.โผงเผง จ.อ่างทอง และ ต.ผักไห่ จ.พระนครศรีอยุธยา เกิดจากน้ำที่ระบายจากเขื่อนเจ้าพระยา รวมกับน้ำฝนที่ตกในพื้นที่ ประกอบกับพื้นที่ดังกล่าว เป็นพื้นที่ลุ่มต่ำ และอยู่นอกแนวคันกั้นน้ำ จึงทำให้น้ำเอ่อท่วมได้