นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) กล่าวถึงการปิดอภิปราย ในมาตรา 6 ของการประชุมร่วมรัฐสภา เพื่อพิจารณาแก้ไขรัฐธรรมนูญที่มาของ ส.ว. เมื่อวานนี้ (6 ก.ย.) โดยได้พยายามประท้วงมาตลอดว่า เป้าหมายสำคัญของรัฐบาลไม่ได้สนใจแก้ปัญหาของประชาชน แต่กลับสนใจแก้รัฐธรรมนูญที่ให้ประโยชน์ต่อคน 2 กลุ่ม คือ รัฐบาล และกลุ่ม ส.ว. 70 ซึ่งนายกสมาคมภัตราคารไทยยังขอเพิ่มราคาข้าวแกงอีก จานละ 15 บาท ตอนสิ้นปี ถือเป็นข่าวร้ายสำหรับคนไทยทั้งประเทศ จึงอยากให้รัฐบาลเร่งลงมาแก้ปัญหา และขอให้เลิกทำเพื่อตัวเอง อีกทั้งฝ่ายค้านตั้งกระทู้ถามสดนายกรัฐมนตรี แต่ไม่เคยมาตอบ ทั้งที่เรียกร้องให้นำปัญหามาแก้ในสภาฯ สะท้อนให้เห็นว่า นายกรัฐมนตรีพูดอย่างทำอย่าง
ส่วนการประชุมเมื่อคืนนี้ ตนเห็นว่า นายนิคม ไวยรัชพานิช ประธานวุฒิสภา ได้ทำผิดรัฐธรรมนูญซ้ำ 2 กรณี ที่ปล่อยให้มีการลงมติปิดอภิปราย และโหวตมาตรา 6 กรณีนี้จะเป็นข้อมูลอีกอันหนึ่งที่จะเติมเข้าไปในญัตติถอดถอนนายนิคม ออกจากตำแหน่ง
อย่างไรก็ตาม มองว่า ยังไม่ถึงเวลาที่ฝ่ายค้านจะยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล เพราะมี ส.ว. ได้ยื่นเปิดอภิปรายทั่วไปแบบไม่ลงมติไปแล้ว
ส่วนการประชุมเมื่อคืนนี้ ตนเห็นว่า นายนิคม ไวยรัชพานิช ประธานวุฒิสภา ได้ทำผิดรัฐธรรมนูญซ้ำ 2 กรณี ที่ปล่อยให้มีการลงมติปิดอภิปราย และโหวตมาตรา 6 กรณีนี้จะเป็นข้อมูลอีกอันหนึ่งที่จะเติมเข้าไปในญัตติถอดถอนนายนิคม ออกจากตำแหน่ง
อย่างไรก็ตาม มองว่า ยังไม่ถึงเวลาที่ฝ่ายค้านจะยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล เพราะมี ส.ว. ได้ยื่นเปิดอภิปรายทั่วไปแบบไม่ลงมติไปแล้ว