พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธ์ม่วง รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปราบปรามการโจรกรรมรถยนต์ รถจักรยานยนต์ หรือ ศปจ.ตร. แถลงประชาสัมพันธ์รูปแบบการโจรกรรมทรัพย์สินภายในรถ หรือโจรกรรมรถรถยนต์ โดยใช้วิทยุสื่อสารดัดแปลง พร้อมสาธิตวิธีการทำงาน โดยนำรถยนต์ของผู้เสียหายและรถยนต์ตัวอย่าง เช่น เบนซ์ และบีเอ็มดับบลิว มาทดสอบรวม 4 คัน
ทั้งนี้ สืบเนื่องจากตำรวจสามารถจับกุมนายวิเชียร บรรดาศักดิ์ ได้ขณะเข้าไปรื้อค้นภายในรถของผู้เสียหาย เมื่อวันที่ 22 สิงหาคมที่ผ่านมา พร้อมของกลางวิทยุสื่อสารดัดแปลง และรถยนต์มินิคูเปอร์ ที่ขโมยมาจากผู้เสียหาย ที่ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ เดือนมิถุนายน โดยผู้ต้องหารับสารภาพว่าลงมือก่อเหตุคนเดียว เพียงแค่เปิดวิทยุสื่อสารดัดแปลง ระยะ 25-50 เมตร รบกวนสัญญาณกันขโมย รีโมทรถยนต์ทุกชนิดจะไม่ทำงาน แต่โดยส่วนใหญ่ผู้ต้องหามีเป้าหมายเพื่อโจรกรรมทรัพย์สินเท่านั้น ส่วนกรณีรถยนต์มินิคูเปอร์ที่ขโมยมา เนื่องจากพบกุญแจสำรองภายในรถ
ทั้งนี้ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้ฝากเตือนไปยังประชาชนให้หมั่นตรวจเช็กว่า รถล็อกหรือไม่หลังจากกดสัญญาณรีโมท เนื่องจากบริษัทผู้ผลิตยังไม่มีวิธีแก้ไข
ด้านนายดุสิต สุขสวัสดิ์ อาจารย์ประจำคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง เปิดเผยว่า วงจรที่กลุ่มมิจฉาชีพใช้ เป็นวงจรที่มีการกำหนดจังหวะการส่ง คล้ายกับการตีกลอง โดยกลุ่มมิจฉาชีพเพียงมีความรู้ด้านวงจรอิเล็กทรอนิกส์เบื้องต้น และทราบคลื่นการส่งรีโมทยี่ห้อรถต่างๆ ก็สามารถดัดแปลงวงจรยี่ห้อสื่อสารให้ใกล้เคียงกันและสามารถใช้งานได้ ซึ่งใช้ได้กับรถทุกยี่ห้อ โดยมีระยะหวังผล 20-30 เมตร
เจ้าหน้าที่ตำรวจเตือนให้ประชาชนสังเกต หากพบเห็นวิทยุสื่อสารลักษณะ 2 เสา ให้แจ้งเจ้าหน้าที่ หรือตรวจสอบรถทันที ด้วยวิธีง่ายๆ โดยการดึงประตูรถเพื่อเช็ก ตรวจสอบด้วยตัวเอง
ผู้เชี่ยวชาญแสดงความกังวลด้วยว่า ในอนาคตหากมีผู้ศึกษาและสามารถดัดแปลงระบบวงจรต่างๆ ได้มากขึ้น การดูดข้อมูลรหัสกุญแจรถ โดยเฉพาะรถราคาแพง ก็อาจจะมีรถถูกโจรกรรมโดยช่องว่างทางอิเล็กทรอนิกส์มากขึ้น
ทั้งนี้ สืบเนื่องจากตำรวจสามารถจับกุมนายวิเชียร บรรดาศักดิ์ ได้ขณะเข้าไปรื้อค้นภายในรถของผู้เสียหาย เมื่อวันที่ 22 สิงหาคมที่ผ่านมา พร้อมของกลางวิทยุสื่อสารดัดแปลง และรถยนต์มินิคูเปอร์ ที่ขโมยมาจากผู้เสียหาย ที่ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ เดือนมิถุนายน โดยผู้ต้องหารับสารภาพว่าลงมือก่อเหตุคนเดียว เพียงแค่เปิดวิทยุสื่อสารดัดแปลง ระยะ 25-50 เมตร รบกวนสัญญาณกันขโมย รีโมทรถยนต์ทุกชนิดจะไม่ทำงาน แต่โดยส่วนใหญ่ผู้ต้องหามีเป้าหมายเพื่อโจรกรรมทรัพย์สินเท่านั้น ส่วนกรณีรถยนต์มินิคูเปอร์ที่ขโมยมา เนื่องจากพบกุญแจสำรองภายในรถ
ทั้งนี้ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้ฝากเตือนไปยังประชาชนให้หมั่นตรวจเช็กว่า รถล็อกหรือไม่หลังจากกดสัญญาณรีโมท เนื่องจากบริษัทผู้ผลิตยังไม่มีวิธีแก้ไข
ด้านนายดุสิต สุขสวัสดิ์ อาจารย์ประจำคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง เปิดเผยว่า วงจรที่กลุ่มมิจฉาชีพใช้ เป็นวงจรที่มีการกำหนดจังหวะการส่ง คล้ายกับการตีกลอง โดยกลุ่มมิจฉาชีพเพียงมีความรู้ด้านวงจรอิเล็กทรอนิกส์เบื้องต้น และทราบคลื่นการส่งรีโมทยี่ห้อรถต่างๆ ก็สามารถดัดแปลงวงจรยี่ห้อสื่อสารให้ใกล้เคียงกันและสามารถใช้งานได้ ซึ่งใช้ได้กับรถทุกยี่ห้อ โดยมีระยะหวังผล 20-30 เมตร
เจ้าหน้าที่ตำรวจเตือนให้ประชาชนสังเกต หากพบเห็นวิทยุสื่อสารลักษณะ 2 เสา ให้แจ้งเจ้าหน้าที่ หรือตรวจสอบรถทันที ด้วยวิธีง่ายๆ โดยการดึงประตูรถเพื่อเช็ก ตรวจสอบด้วยตัวเอง
ผู้เชี่ยวชาญแสดงความกังวลด้วยว่า ในอนาคตหากมีผู้ศึกษาและสามารถดัดแปลงระบบวงจรต่างๆ ได้มากขึ้น การดูดข้อมูลรหัสกุญแจรถ โดยเฉพาะรถราคาแพง ก็อาจจะมีรถถูกโจรกรรมโดยช่องว่างทางอิเล็กทรอนิกส์มากขึ้น