ศรีสะเกษ- อดีตศิษย์เณรคำชี้ “เสี่ยกัง” เศรษฐีเจ้าของร้านประดับยนต์อุบลฯ ยังปกปิดข้อมูลการซื้อรถของ “ไอ้คำ” เชื่อว่ายังมีรถยนต์อีกกว่า 10 คันที่ไม่ยอมเปิดเผย แฉ “เสี่ยโย” แหล่งซื้อรถหรูของไอ้คำ อยู่แถวถนนเพชรบุรีตัดใหม่ กรุงเทพฯ
เมื่อเวลา 13.30 น. วันนี้ (16 ก.ค. ) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีที่เสี่ยกัง เศรษฐีเจ้าของร้านประดับยนต์ชื่อดังของ จ.อุบลราชธานี ออกมาเปิดเผยเกี่ยวกับการซื้อรถยนต์ของ นายวิรพล สุขผล หรืออดีตพระวิรพล ฉัตติโก หรือหลวงปู่เณรคำ ประธานสงฆ์วัดป่าขันติธรรม บ้านยาง ต.ยาง อ.กันทรารมย์ จ.ศรีสะเกษ จำนวน 35 คัน เพื่อแจกจ่ายแก่พระชั้นผู้ใหญ่ รวมถึงบุคคล และส่วนราชการต่างๆ นั้น
อดีตลูกศิษย์ของหลวงปู่เณรคำรายหนึ่งกล่าวว่า ตนเห็นว่าข้อมูลการซื้อรถของเณรคำที่เสี่ยกังนำเอามาเปิดเผยนั้นน่าที่จะยังเปิดเผยข้อมูลไม่หมด เนื่องจากยังมีรถยนต์อีกประมาณกว่า 10 คันที่เสี่ยกังไม่ได้พูดถึง ซึ่งตนไม่ทราบว่าเพราะเหตุใดจึงเปิดเผยข้อมูลออกมาไม่หมด
อดีตลูกศิษย์ของหลวงปู่เณรคำกล่าวต่อไปว่า รถยนต์ที่ตนพบเห็นอดีตเณรคำนำเอามาใช้งาน และทราบว่ามีการดำเนินการจัดซื้อโดยเสี่ยกัง ประกอบด้วย รถมินิคูเปอร์ จำนวน 2 คัน รถเมอร์เซเดส-เบนซ์ อี 220 จำนวน 2 คัน รถโตโยต้า อัลพาร์ด สีดำ 1 คัน สีขาว 1 คัน รวม 2 คัน รถโตโยต้า ไฮบริด สีขาว จำนวน 1 คัน รถตู้โตโยต้า สีแดง จำนวน 1 คัน รถอีซูซุ มิวเซเว่น จำนวน 2 คัน รถเก๋งโตโยต้า ยาริส สีแดง จำนวน 3 คัน และรถฮอนด้า แอคคอร์ด สีขาว ใหม่เอี่ยมป้ายแดง จำนวน 1 คัน
รถทั้งหมดนี้เป็นส่วนหนึ่งที่ตนเห็นอดีตเณรคำและญาติพี่น้องใช้เป็นประจำ ซึ่งการที่เสี่ยกังมอบรถราคาแพงจำนวนมากแก่บุคคลต่างๆ ไปแล้วอ้างว่าจำไม่ได้ว่ามอบรถให้ใครไปบ้างนั้นเป็นการไม่น่าเชื่อถือ เพราะการที่จะมอบรถราคาแพงให้ใครไปเสี่ยกังจะต้องบันทึกเอาไว้อยู่แล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนที่มารับเอารถออกจากเสี่ยกังไปมอบให้บุคคลต่างๆ
การที่เสี่ยกังไม่นำเอาข้อมูลออกมาเปิดเผยให้หมด คล้ายกับว่ามีการปกปิดข้อมูลบางอย่างเอาไว้ ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องโดยเฉพาะกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ น่าจะสอบสวนข้อเท็จจริงทั้งหมดจากเสี่ยกังให้มากกว่านี้ และเสี่ยกังควรเปิดเผยออกมาว่ามอบรถให้ใครไปบ้าง การที่อ้างว่าจำไม่ได้น่าจะไม่ถูกต้อง
อดีตลูกศิษย์ของอดีตเณรคำกล่าวอีกว่า สำหรับรถยนต์หรูที่นำเอาเข้ามาจากต่างประเทศนั้น อดีตเณรคำจะซื้อมาจาก “เสี่ยโย” เจ้าของบริษัทจำหน่ายรถยนต์นำเข้าแห่งหนึ่งย่านถนนเพชรบุรีตัดใหม่ กรุงเทพฯ โดยอดีตเณรคำไปซื้อรถยนต์ยี่ห้อมายบัคจำนวน 2 คัน รถเมอร์เซเดส-เบนซ์ จำนวน 2 คัน รถบีเอ็มดับเบิลยู รุ่นเอ็กซ์ 6 จำนวน 4 คัน รถยนต์ยี่ห้อ โตโยต้า เลกซัส จำนวน 1 คัน และรถโรลส์-รอยซ์ มือสองอีกจำนวน 1 คัน เพื่อนำเอามาใช้งานด้วย
นอกจากนี้แล้วยังมีส่วนราชการต่างๆ ที่ได้รับการสนับสนุนจากอดีตเณรคำ โดยเฉพาะตำรวจทางหลวงนั้นได้รับการสนับสนุนจำนวนมาก เช่น การก่อสร้างอาคารหอประชุมของ ตำรวจทางหลวงอุบลราชธานี พร้อมตกแต่งมูลค่าประมาณ 8 ล้านบาท ได้รถยนต์ และรถพ่วงอีกประมาณ 3 คัน เป็นต้น