นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานรัฐสภา ให้การรับรองนางฮาลิมา ยาข็อบ (H.E.Mdm Halimah Yacob) ประธานรัฐสภาสาธารณรัฐสิงคโปร์ ที่ห้องรับรองพิเศษ อาคารรัฐสภา เนื่องในโอกาสเดินทางเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการ ในฐานะแขกของรัฐสภาไทย ระหว่างวันที่ 27-29 สิงหาคม ซึ่งการเข้าเยี่ยมคารวะครั้งนี้เพื่อเสริมสร้างความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองประเทศให้แน่นแฟ้นมากขึ้น
ประธานรัฐสภาสาธารณรัฐสิงคโปร์ กล่าวว่า ไทยและสิงคโปร์มีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันมายาวนาน และการหารือครั้งนี้จะช่วยขยายช่องทางการค้าการลงทุนระหว่างกัน พร้อมรองรับการรวมตัวเป็นประชาคมอาเซียน โดยเฉพาะด้านการท่องเที่ยว ที่ไทยเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของชาวสิงคโปร์
ขณะเดียวกัน ถือเป็นโอกาสดีที่นายกรัฐมนตรีของไทยเตรียมเยือนสิงคโปร์ปลายปีนี้ ซึ่งน่าจะเป็นช่องทางขยายมูลค่าการค้า การลงทุน และเชิญชวนให้ประธานรัฐสภาไทยเยือนรัฐสภาสิงคโปร์ด้วย เพื่อแลกเปลี่ยนการทำงานร่วมกัน
ขณะที่ประธานรัฐสภาไทย กล่าวยืนยันความสัมพันธ์ของ 2 ประเทศมีความแนบแน่น โดยเฉพาะด้านการท่องเที่ยว และในโอกาสรวมตัวประชาคมอาเซียน รัฐสภาไทยได้ตั้งคณะทำงานขึ้นมา 2 ฝ่าย เพื่อประสานการทำงานของประเทศสมาชิก ประกอบด้วย คณะกรรมการฝ่ายต่างประเทศรัฐสภา ทำหน้าที่ดูแลภาพรวมงานด้านต่างประเทศทั้งหมด เพราะการพัฒนาความร่วมมือของ 10 ประเทศ ต้องอาศัยความเข้าใจ เพื่อลดความขัดแย้งต่างๆ
ส่วนกรรมการอีกชุด คือฝ่ายกฏหมาย ทำหน้าที่ดูแลภาพรวมกฏหมายอาเซียนทั้งหมด ซึ่งเป็นการทำงานเชิงรุก เพื่อขจัดอุปสรรคในการรวมประชาคมอาเซียน และหาแนวทางพัฒนาร่วมกัน ประกอบกับเศรษฐกิจโลกหมุนมาอยู่ที่เอเชีย จึงเป็นโอกาสดีของอาเซียน นอกจากนี้ยังมีเส้นทางสำคัญเชื่อมโยงอาเซียน เป็นรถไฟความเร็วสูงเชื่อมต่อจากจีน ลาว ไทย และเวียดนาม โดยเชื่อว่าจะเป็นเส้นทางสำคัญด้านเศรษฐกิจและของโลกในอนาคต
ประธานรัฐสภาสาธารณรัฐสิงคโปร์ กล่าวว่า ไทยและสิงคโปร์มีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันมายาวนาน และการหารือครั้งนี้จะช่วยขยายช่องทางการค้าการลงทุนระหว่างกัน พร้อมรองรับการรวมตัวเป็นประชาคมอาเซียน โดยเฉพาะด้านการท่องเที่ยว ที่ไทยเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของชาวสิงคโปร์
ขณะเดียวกัน ถือเป็นโอกาสดีที่นายกรัฐมนตรีของไทยเตรียมเยือนสิงคโปร์ปลายปีนี้ ซึ่งน่าจะเป็นช่องทางขยายมูลค่าการค้า การลงทุน และเชิญชวนให้ประธานรัฐสภาไทยเยือนรัฐสภาสิงคโปร์ด้วย เพื่อแลกเปลี่ยนการทำงานร่วมกัน
ขณะที่ประธานรัฐสภาไทย กล่าวยืนยันความสัมพันธ์ของ 2 ประเทศมีความแนบแน่น โดยเฉพาะด้านการท่องเที่ยว และในโอกาสรวมตัวประชาคมอาเซียน รัฐสภาไทยได้ตั้งคณะทำงานขึ้นมา 2 ฝ่าย เพื่อประสานการทำงานของประเทศสมาชิก ประกอบด้วย คณะกรรมการฝ่ายต่างประเทศรัฐสภา ทำหน้าที่ดูแลภาพรวมงานด้านต่างประเทศทั้งหมด เพราะการพัฒนาความร่วมมือของ 10 ประเทศ ต้องอาศัยความเข้าใจ เพื่อลดความขัดแย้งต่างๆ
ส่วนกรรมการอีกชุด คือฝ่ายกฏหมาย ทำหน้าที่ดูแลภาพรวมกฏหมายอาเซียนทั้งหมด ซึ่งเป็นการทำงานเชิงรุก เพื่อขจัดอุปสรรคในการรวมประชาคมอาเซียน และหาแนวทางพัฒนาร่วมกัน ประกอบกับเศรษฐกิจโลกหมุนมาอยู่ที่เอเชีย จึงเป็นโอกาสดีของอาเซียน นอกจากนี้ยังมีเส้นทางสำคัญเชื่อมโยงอาเซียน เป็นรถไฟความเร็วสูงเชื่อมต่อจากจีน ลาว ไทย และเวียดนาม โดยเชื่อว่าจะเป็นเส้นทางสำคัญด้านเศรษฐกิจและของโลกในอนาคต
