นายณัฐวุฒิ โพธิสาโร รองปลัดกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวระหว่างร่วมเสวนาคดีปราสาทพระวิหาร ไขปริศนาตีความ ที่กระทรวงการต่างประเทศจัดร่วมกับคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ โดยเชื่อว่าศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ หรือ ศาลโลก จะไม่ตัดสินตามคำร้องของกัมพูชา ให้ใช้เส้นเขตแดนรอบปราสาทตามแนวเขตที่ระบุไว้ในแผนที่ฝรั่งเศสอัตราส่วน 1:200,000 ซึ่งจะทำให้พื้นที่ 4.6 ตารางกิโลเมตร รอบปราสาทตกเป็นของกัมพูชา
นายฏัฐวุฒิ กล่าวติดตลกในตอนหนึ่งถึงการต่อสู้ที่ศาลโลกในครั้งนี้ว่า ประเทศไทยอาจถูกล็อตเตอรีรางวัลที่ 1 เนื่องจากเห็นว่า ประเด็นข้อต่อสู้ของทีมกฎหมายไทยมีน้ำหนัก และเหตุผลมากพอที่จะให้ศาลใช้ประกอบการพิจารณาไม่ตัดสินตามคำร้องของฝ่ายกัมพูชา
ด้านนายวีรชัย พลาศรัย เอกอัครราชทูตไทยประจำกรุงเฮก หัวหน้าคณะทีมกฏหมาย ที่เดินทางมาร่วมเสวนาด้วย กล่าวถึงคำตัดสินของศาลต่อคำร้องกัมพูชาที่จะมีขึ้นว่าต้องอยู่ในกรอบคำตัดสินปี 2505 ที่ระบุให้อธิปไตยเหนือปราสาทเป็นของกัมพูชา แต่ไม่ได้มีการพูดถีงเรื่องเส้นเขตแดน และในช่วงปลายเดือนเมษายน ปี 2554 กัมพูชาร้องขอให้ศาลตีความในเรื่องเส้นเขตแดน หลังกัมพูชาสร้างสถานการณ์ในพื้นที่ชายแดน ช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์ เพื่อใช้เป็นเหตุยื่นคำร้องต่อศาลโลกให้ตีความ โดยเชื่อว่าศาลจะรับฟังข้อต่อสู้ทางกฎหมายของฝ่ายไทย และไม่ตัดสินตามคำร้องของกัมพูชา โดยในช่วงเช้าวันที่ 23 สิงหาคมนี้ จะมีการเสวนาในหัวเรื่องเดียวกัน ที่มหาวิทยาลัยขอนแก่น ซึงเป็นการจัดร่วมกันระหว่างกระทรวงการต่างประเทศ และคณะนิติศาสตร์ของมหาวิทยาลัย เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจกับประชาชนในภูมิภาคในแนวทางต่อสู้คดีของรัฐบาล ก่อนที่ศาลโลกจะมีคำตัดสินในช่วงปลายปีนี้ คาดว่าจะเป็นระหว่างเดือนพฤศจิกายนถึงธันวาคม
นายฏัฐวุฒิ กล่าวติดตลกในตอนหนึ่งถึงการต่อสู้ที่ศาลโลกในครั้งนี้ว่า ประเทศไทยอาจถูกล็อตเตอรีรางวัลที่ 1 เนื่องจากเห็นว่า ประเด็นข้อต่อสู้ของทีมกฎหมายไทยมีน้ำหนัก และเหตุผลมากพอที่จะให้ศาลใช้ประกอบการพิจารณาไม่ตัดสินตามคำร้องของฝ่ายกัมพูชา
ด้านนายวีรชัย พลาศรัย เอกอัครราชทูตไทยประจำกรุงเฮก หัวหน้าคณะทีมกฏหมาย ที่เดินทางมาร่วมเสวนาด้วย กล่าวถึงคำตัดสินของศาลต่อคำร้องกัมพูชาที่จะมีขึ้นว่าต้องอยู่ในกรอบคำตัดสินปี 2505 ที่ระบุให้อธิปไตยเหนือปราสาทเป็นของกัมพูชา แต่ไม่ได้มีการพูดถีงเรื่องเส้นเขตแดน และในช่วงปลายเดือนเมษายน ปี 2554 กัมพูชาร้องขอให้ศาลตีความในเรื่องเส้นเขตแดน หลังกัมพูชาสร้างสถานการณ์ในพื้นที่ชายแดน ช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์ เพื่อใช้เป็นเหตุยื่นคำร้องต่อศาลโลกให้ตีความ โดยเชื่อว่าศาลจะรับฟังข้อต่อสู้ทางกฎหมายของฝ่ายไทย และไม่ตัดสินตามคำร้องของกัมพูชา โดยในช่วงเช้าวันที่ 23 สิงหาคมนี้ จะมีการเสวนาในหัวเรื่องเดียวกัน ที่มหาวิทยาลัยขอนแก่น ซึงเป็นการจัดร่วมกันระหว่างกระทรวงการต่างประเทศ และคณะนิติศาสตร์ของมหาวิทยาลัย เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจกับประชาชนในภูมิภาคในแนวทางต่อสู้คดีของรัฐบาล ก่อนที่ศาลโลกจะมีคำตัดสินในช่วงปลายปีนี้ คาดว่าจะเป็นระหว่างเดือนพฤศจิกายนถึงธันวาคม