ผศ.ดร.ศรีสมภพ จิตร์ภิรมย์ศรี อาจารย์คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์เฝ้าระวังสถานการณ์ภาคใต้ เปิดเผยถึงเหตุการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้นต่อเนื่องในพื้นที่ชายแดนภาคใต้เวลานี้ว่าการจากเก็บรวบรวมสถิติความรุนแรงที่เกิดขึ้นในเดือนรอมฎอน พบว่าในช่วงเริ่มต้นของเดือนถือศีลอดปีนี้ โดยเฉพาะในช่วงแรก หรือเดือนกรกฎาคม ที่ผ่านมา ถือว่ามีสถิติที่น่าสนใจ เนื่องจากความถี่ในการเกิดเหตุลดลงกว่าปีอื่นๆ ที่ผ่านมา
ทั้งนี้ คาดว่าสืบเนื่องมาจากความพยายามในการยุติความรุนแรงในเดือนรอมฎอนที่มีการตกลงระหว่างแกนนำบีอาร์เอ็น กับเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ จากการพูดคุยเพื่อสร้างสันติภาพร่วมกัน เดือนกรกฎาคม ที่ผ่านมา ถือว่ามีสถิติความถี่การเกิดเหตุรุนแรงอยู่ในระดับต่ำมาก หากเทียบกับช่วงเดียวกันกับปีที่ผ่านมา ซึ่งอาจเป็นผลพวงมาจากการประกาศยุติความรุนแรงก่อนเข้าสู่เดือนถือศีลอดของแกนนำบีอาร์เอ็น
ผู้อำนวยการศูนย์เฝ้าระวังสถานการณ์ภาคใต้ กล่าวต่อว่า ที่น่าจับตามองมากเป็นพิเศษคือเมื่อก้าวเข้าสู่เดือนสิงหาคม เป็นต้นมา ซึ่งเป็นช่วงปลายของเดือนรอมฎอน ปรากฏว่าเกิดเหตุการณ์ความรุนแรงในอัตราถี่ และโดยเฉพาะช่วง 10 วันสุดท้ายก่อนสิ้นสุดเดือนถือศีลอด พบว่าปีนี้มีการก่อเหตุความไม่สงบด้วยการใช้วัตถุระเบิดสูงกว่าหลายปีที่ผ่านมาอย่างเห็นได้ชัด และเกิดเหตุความสูญเสียกับเป้าหมายหลายกลุ่ม แม้ว่าส่วนใหญ่จะเป็นเจ้าหน้าที่รัฐก็ตามที ช่วงปลายของเดือนรอมฎอนปีนี้ ซึ่งนับตั้งแต่เดือนสิงหาคมเป็นต้นมา จากสถิติพบว่ามีเหตุรุนแรงที่เกิดขึ้นจากการใช้วัตถุระเบิดมากและเยอะกว่าทุกๆ ปีในช่วงเดียวกัน
ผศ.ดร.ศรีสมภพ กล่าวต่อว่า สถิติในแต่ละปีของการเกิดเหตุความไม่สงบในเดือนรอมฎอน จะมีความแตกต่างกัน เช่น บางปีจะเกิดเหตุถี่ในช่วง 10 วันแรกของการถือศีลอด แต่ในขณะที่บางปีกลับมีเหตุการณ์ต่อเนื่องในห้วง 10 วันสุดท้ายก่อนสิ้นสุดเดือนรอมฎอน แต่ปีนี้ในช่วงปลายก่อนสิ้นสุดเดือนสำคัญของพี่น้องมุสลิมพบว่ามีการใช้วัตถุระเบิดในการก่อเหตุสูงมากกว่าหลายปีก่อนหน้านี้
ทั้งนี้ คาดว่าสืบเนื่องมาจากความพยายามในการยุติความรุนแรงในเดือนรอมฎอนที่มีการตกลงระหว่างแกนนำบีอาร์เอ็น กับเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ จากการพูดคุยเพื่อสร้างสันติภาพร่วมกัน เดือนกรกฎาคม ที่ผ่านมา ถือว่ามีสถิติความถี่การเกิดเหตุรุนแรงอยู่ในระดับต่ำมาก หากเทียบกับช่วงเดียวกันกับปีที่ผ่านมา ซึ่งอาจเป็นผลพวงมาจากการประกาศยุติความรุนแรงก่อนเข้าสู่เดือนถือศีลอดของแกนนำบีอาร์เอ็น
ผู้อำนวยการศูนย์เฝ้าระวังสถานการณ์ภาคใต้ กล่าวต่อว่า ที่น่าจับตามองมากเป็นพิเศษคือเมื่อก้าวเข้าสู่เดือนสิงหาคม เป็นต้นมา ซึ่งเป็นช่วงปลายของเดือนรอมฎอน ปรากฏว่าเกิดเหตุการณ์ความรุนแรงในอัตราถี่ และโดยเฉพาะช่วง 10 วันสุดท้ายก่อนสิ้นสุดเดือนถือศีลอด พบว่าปีนี้มีการก่อเหตุความไม่สงบด้วยการใช้วัตถุระเบิดสูงกว่าหลายปีที่ผ่านมาอย่างเห็นได้ชัด และเกิดเหตุความสูญเสียกับเป้าหมายหลายกลุ่ม แม้ว่าส่วนใหญ่จะเป็นเจ้าหน้าที่รัฐก็ตามที ช่วงปลายของเดือนรอมฎอนปีนี้ ซึ่งนับตั้งแต่เดือนสิงหาคมเป็นต้นมา จากสถิติพบว่ามีเหตุรุนแรงที่เกิดขึ้นจากการใช้วัตถุระเบิดมากและเยอะกว่าทุกๆ ปีในช่วงเดียวกัน
ผศ.ดร.ศรีสมภพ กล่าวต่อว่า สถิติในแต่ละปีของการเกิดเหตุความไม่สงบในเดือนรอมฎอน จะมีความแตกต่างกัน เช่น บางปีจะเกิดเหตุถี่ในช่วง 10 วันแรกของการถือศีลอด แต่ในขณะที่บางปีกลับมีเหตุการณ์ต่อเนื่องในห้วง 10 วันสุดท้ายก่อนสิ้นสุดเดือนรอมฎอน แต่ปีนี้ในช่วงปลายก่อนสิ้นสุดเดือนสำคัญของพี่น้องมุสลิมพบว่ามีการใช้วัตถุระเบิดในการก่อเหตุสูงมากกว่าหลายปีก่อนหน้านี้
