นางสดศรี สัตยธรรม คณะกรรมการเลือกตั้ง หรือ กกต. ด้านกิจการพรรคการเมืองและการออกเสียงประชามติ เปิดเผยว่า ส่วนตัวเป็นห่วงเรื่องสถานการณ์ทางการเมือง โดยเฉพาะเรื่องที่ศาลรัฐธรรมนูญกำลังพิจารณาคำร้องเกี่ยวกับกรณีสมาชิกรัฐสภา 312 คน ร่วมกันลงชื่อเสนอร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญมาตรา 68 และเรื่องที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) กำลังพิจารณาการทุจริตในโครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาลว่า หากมีคำวินิจฉัยในเรื่องดังกล่าว อาจส่งผลกระทบต่อเสถียรภาพของรัฐบาล และอาจทำให้เกิดสูญญากาศทางการเมือง เช่น หาก ป.ป.ช. ชี้มูลความผิดในโครงการรับจำนำข้าว แล้วส่งฟ้องต่อศาลฎีกา แผนกผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง นายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรี ก็ต้องยุติการปฏิบัติหน้าที่ แต่ไม่สามารถยุบสภาฯ เพื่อให้จัดการเลือกตั้งใหม่ได้ จนกว่าศาลฎีกาจะมีคำวินิจฉัย กระบวนการของฝ่ายบริหารต่างๆ ต้องหยุดชะงัก ซึ่งเชื่อว่า เมื่อสถานการณ์นี้เกิดขึ้น อาจจะทำให้ฝ่ายการเมือง และกลุ่มที่เคลื่อนไหวทางการเมืองต่างๆ ออกมาชุมนุม จนนำไปสู่ความรุนแรงยิ่งกว่าเมื่อปี 2553